ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เรือลำเดียวที่นำมาประกอบพระราชพิธี นั่นคือเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งเอกที่มีฐานันดรศักดิ์สูงกว่าเรือพระราชพิธีทุกลำ ซึ่งจะมีการอัญเชิญในการเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินของรัชกาลที่ 10
กองทัพเรืออัญเชิญเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ลงน้ำไปปรากฏโฉมในท้องน้ำเจ้าพระยา ตกแต่งประดับประดาอย่างงดงาม หัวเรือทรงพู่ห้อยทำจากผลึกแก้วคริสตัล คอเรือคล้องพวงมาลัยและอุบะดอกไม้ที่ประดิษฐ์ขึ้นอย่างวิจิตร ขณะที่ลำเรือมีการติดฉัตรสำหรับประกอบพระเกียรติยศของพระมหากษัตริย์ 7 องค์ คือฉัตรเครื่องสูงหักทองขวาง 7 ชั้น ฉัตร 5 ชั้น กลางลำเรือติดตั้งบุษบก ท้ายเรือติดตั้งธงสามชายหนึ่งผืน ขณะที่ตัวลำเรือลงรักปิดทองเป็นสีทองฉาบสะท้อนแสงอาทิตย์แวววาว ประกอบราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ 4-6 พฤษภาคม 2562
จากนั้นจะถูกใช้ในการเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินของรัชกาลที่ 10 ในเดือนตุลาคม 2562 จะมีการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคครั้งแรกในรัชกาล ใช้เรือพระราชพิธี 52 ลำ และกำลังพลจากหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ เป็นฝีพายประจำเรือพระราชพิธี 2,098 นาย
กำลังพลประจำเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ รวม 64 คน ประกอบด้วย ฝีพาย 50 คน นายท้าย 2 นายเรือ 2 คนถือธงสามชาย 1 คน พลสัญญาณ 1 คน คนเห่เรือ 1 คน และคนถือฉัตร 7 คน แต่งชุดไทยโบราณที่ใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก อัญเชิญเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ จอดที่ท่าราชวรดิฐ เป็นโอกาสสำคัญที่ประชาชนจะได้เห็นเรือพระที่นั่งเอกที่วิจิตรงดงามและมีฐานันดรศักดิ์สูงกว่าเรือพระราชพิธีทุกลำ คือเรือพระที่นั่งลำเดียวที่เป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ขบวนพยุหยาตราชลมารคคือขบวนกองทัพเรือพระราชพิธีของพระมหากษัตริย์ไทยซึ่งเสด็จฯ ทางน้ำ เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย