จ่อเสนอขุดคลอง "บางบาล-บางไทร" แก้ปัญหาน้ำท่วม วางงบหมื่นล้าน

รมว.เกษตรฯ เตรียมเสนอโครงการป้องกันน้ำท่วมลุ่มน้ำเจ้าพระยา 3 แผน มูลค่าหลายหมื่นล้าน พร้อมยืนยันสถานการณ์น้ำลดลง และเตรียมพร้อมรับมือพายุดีเปรสชันที่อาจส่งผลกระทบภาคใต้

วันที่ 26 ต.ค.60 พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมพิจารณาโครงการป้องกันน้ำท่วมลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง โดยมีผู้บริหารกรมชลประทาน นักวิชาการ อาทิ นายรอยล จิตรดอน นายสุวัฒนา จิตตลดากร นักวิชาการวิศวกรรมสถาน นายอภิชาติ อนุกูลอำไพ นายสุจริต คูณธนกูลวงศ์ นักวิชาการทีดีอาร์ไอ เป็นต้น เข้าร่วมประชุม

โดยภายหลังการประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง พลเอกฉัตรชัย เปิดเผยว่า ที่ประชุมเสนอการแก้ปัญหาตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาโดยมีการพิจารณา 3 โครงการ ได้แก่ โครงการคลองระบายน้ำ บางบาล-บางไทร ความยาว 22.5 กิโลเมตร การทำคลองระบายน้ำควบคู่ถนนวงแหวนที่กระทรวงคมนาคมทำแผนงานไว้แล้ว และโครงการขยายคลองแม่น้ำชัยนาถ-ป่าสัก จนถึงเขื่อนพระราม 6 และขุดคลองสายใหม่ของแม่น้ำป่าสักไปยังอ่าวไทย เพื่อเป็นการตัดน้ำก่อนเข้าเขื่อนเจ้าพระยา

โดยจากการพูดคุยมีความคิดเห็นหลากหลาย แต่แนวทางที่เห็นด้วยคือโครงการขุดคลองบางบาล-บางไทร ความยาว 22.5 กิโลเมตร ที่จะแก้ปัญหาการระบายน้ำให้เร็วขึ้นเป็น 1,200 ลบ.ม./วินาที โดยใช้งบประมาณกว่า 1 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปีในการก่อสร้าง รวมทั้งที่ประชุมยังเห็นด้วยในโครงการเรื่องการขยายขีดความสามารถของคลองชัยนาถ-ป่าสัก ระยะทาง 134 กิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันมีขีดความสามารถ จุน้ำได้ 200 ลบ.ม./วินาที โดยขยายเป็น 400 ลบ.ม./วินาที และโครงการนี้สามารถตัดยอดน้ำก่อนเข้าเขื่อนเจ้าพระยาและเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำได้ แต่การขุดคลองใหม่ตั้งแต่เขื่อนพระราม 6 ถึงอ่าวไทยนั้น ยังมีข้อคิดเห็นไม่ตรงกันว่าจะขุดคลองจากเขื่อนพระราม 6 ไปที่ อ่าวไทย หรือจะขุดคลอง ไปเชื่อมที่วงแหวนของกระทรวงคมนาคมที่มีการทำถนนอยู่แล้ว ซึ่งหลังจากนี้ นายสมเกียติ ประจำวงษ์ อธิบดีกรมชลประทานจะทำข้อมูลเปรียบเทียบทั้ง 2 รูปแบบก่อนว่าโครงการใดจะสามารถดำเนินการได้ง่าย รวดเร็ว และประหยัดงบประมาณ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 4 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ หลังจากนั้นจะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายน้ำแห่งชาติหรือ กนช.จัดประชุมในกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีสั่งการว่าจะต้องได้ข้อยุติเกี่ยวกับโครงการแก้ปัญหาน้ำให้ได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป

ขณะที่นายสมเกียรติ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยาลดลงตามลำดับ เนื่องจากไม่มีน้ำเหนือลงมาเติม และฝนไม่ตกเพิ่มตามการพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ประกอบกับน้ำทะเลหนุนลดลงต่ำ ช่วงนี้จึงสามารถเร่งระบายน้ำได้ ส่วนน้ำในทุ่งรับน้ำที่มีอยู่กว่า 1,360 ล้านลูกบาศก์เมตรนั้น มีแผนในการระบายออกเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนแล้ว และหลังจากนี้จะให้ข้อมูลกับประชาชนมากขึ้น

ส่วนที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศว่าจะมีพายุดีเปรสชันจะเข้ามากระทบจังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะชุมพรนั้น ยืนยันว่ามีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม โดยรวมมือกระทรวงมหาดไทยในการเตรียมเครื่องมือต่างๆ เข้าพื้นที่แล้ว และกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อให้ระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ