รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กระตุ้นรัฐบาลสร้างกลไกคุ้มครองข้าราชการ เพื่อต้านทุจริตและไม่ควรปล่อยให้ข้าราชการที่ดีต่อสู้กับการทุจริตเพียงลำพัง
วันนี้( 11 มี.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่นางสาว ปณิดา ยศปัญญา นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และนางสาวณัฐกานต์ หมื่นพล อดีตลูกจ้างศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดขอนแก่น ออกมาเปิดโปงการทุจริตปลอมแปลงเอกสารรับเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ และผู้ป่วยเอดส์ของศูนย์คนไร้ที่พึ่ง จนมีการตรวจสอบพบการทุจริตอีกหลายสิบจังหวัด ว่า การทุจริตที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง กระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์เป็นที่รับรู้ของสาธารณะ เพราะมีคนภายในองค์กร คือนักศึกษาฝึกงาน และอดีตลูกจ้าง นำข้อมูลการทุจริตมาเปิดเผย แต่กว่าจะนำข้อมูลทุจริตออกมาเปิดเผยได้ ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก
ดังนั้นเพื่อให้การป้องกันปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นในหน่วยงานราชการต่างๆ เกิดประสิทธิภาพ จึงขอฝากรัฐบาลนำกรณีโกงเงินคนจนมาเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างกลไกและกระบวนการรับเรื่องร้องเรียนการทุจริตในหน่วยงานราชการต่างๆ พร้อมทั้งมีมาตรการคุ้มครองลูกจ้าง พนักงาน และข้าราชการดีๆ ที่ปฏิเสธการทุจริตให้มีช่องทางอย่างเป็นทางการ ที่จะแจ้งเบาะแสการทุจริต เพื่อจัดการกับข้าราชการที่เลวร้ายในหน่วยราชการได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น ไม่ใช่ปล่อยให้ลูกจ้าง พนักงาน ข้าราชการดีๆ รวมถึงนักศึกษาฝึกงานที่ถึงแม้จะเข้าไปฝึกงานในหน่วยงานราชการต่างๆ เพียงช่วงสั้นๆ ต้องแสวงหาช่องทางในการแจ้งเบาะแสตามลำพัง
ทั้งนี้ การสร้างกลไกและกระบวนการรับเรื่องร้องเรียนทุจริตในหน่วยงานราชการพร้อมทั้งมาตรการคุ้มครองที่เข้มแข็ง จะเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาให้ลูกจ้าง พนักงาน ข้าราชการ ไม่ต้องเกรงกลัวที่จะหลีกเลี่ยงปฏิเสธที่จะต้องทำการทุจริตตามคำสั่งของข้าราชการระดับสูงอีกต่อไป
นายองอาจ เชื่อว่ายังมี พนักงาน ข้าราชการในหน่วยงานอื่นทุจริต หรือมีส่วนร่วมกับการทุจริตอีกมาก แต่ยังไม่ถูกเปิดเผยออกมาสู่สาธารณชน