เอ๊ะ!! ยังไง “วัฒนา-ธนาธร” แดงเหมือนกัน แต่เดินคนละทางสร้างดาวคนละดวง??

นับตั้งแต่มีการประกาศ ตัวจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้นของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หรือผู้ที่เรียกตัวเองว่า “ไพร่หมื่นล้าน” และมีการโจษขานว่านั่น คือพรรคเพื่อไทยสาขาสอง?

ก่อนจะมีคำตอบอย่างหนึ่งอย่างใดปรากฎว่านายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ซึ่งในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีบทบาท ความโลดโผนทางการเมืองมาโดยตลอดจนถึงกับได้รับการจับตาว่าอาจจะได้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็เป็นได้

เรื่องนี้เองตัวนายวัฒนาก็ได้ออกมาขยายความแล้วว่า หัวหน้าพรรคเพื่อไทยไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนเดียวกับผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี แต่จะเป็นคนที่เคยต่อสู้กับพรรค และเป็นคนที่สมาชิกพรรคให้การยอมรับ ส่วนผู้ที่เป็นนายกรัฐมนตรีสมาชิกพรรค อาจจะไม่ได้การยอมรับจากสมาชิกพรรค แต่ประชาชนภายนอกให้การยอมรับ ซึ่งหมายความว่าอาจจะเป็นคนละคนกันก็ได้ การระบุสเปคแบบนี้ของนายวัฒนาแน่นอนว่า ค่อนข้างที่จะเข้าเกณฑ์สำหรับตัวนายวัฒนาเองเพราะถือว่าได้ต่อสู้กับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด

และด้วยเหตุผลนี้หรือไม่ก็ตามแต่นายวัฒนาก็ได้ออกมาวิพากษ์พักของคนรุ่นใหม่อย่างนายธนาธร นายวัฒนา ได้ให้สัมภาษณ์ผ่าน thai voice ของนายจอม เพชรประดับ ถึงกรณีการเตรียมจัดตั้งพรรคการเมือง”คนรุ่นใหม่” ว่าเรื่องการเมืองสำคัญที่ใจ หากจะเข้ามาอาสาตามสิ่งที่ตัวเองฝัน อยากให้ประเทศกลับเป็นประเทศประชาธิปไตย ถือเป็นเรื่องทีดี คุณธนาธรฝันคงไม่ต่างกันกับตน แต่วิธีการมันมีความสลับซับซ้อนกว่าครั้งอื่นๆ เช่นการจะนำประชาธิปไตยกลับมา ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ถูกเขาวางหลักเกณฑ์ไว้ เพื่อนับหนึ่งใหม่ วางกติกาประชาชนมีส่วนร่วม แต่ต้องใช้เสียงส.ส.

"คุณธนาธร ถือว่ามีความคิดที่ดี เพราะมีเป้าหมายเพื่อประชาธิปไตย ทำเพื่อประชาชน แต่บริบททางการเมืองวันนี้จำเป็นต้องอาศัยเสียงข้างมาก เช่นเสนอกฎหมายต้องได้เสียงเกินหนึ่งของสภาถึงจะแก้ไขได้ ผมยินดีที่กลุ่มการเมืองใหม่จะเข้ามา แต่คะแนนเสียงที่คุณจะได้มา คุณควรจะไปแย่งคะแนนจากฝั่งที่นิยมเผด็จการ ไม่เช่นนั้นคะแนนฝ่ายประชาธิปไตยมันจะไม่มากขึ้น ไม่ได้หมายความว่าพรรคเพื่อไทยกลัวการแข่งขัน แต่ถ้าฝ่ายประชาธิปไตยมาแย่งคะแนนกันเอง จะทำให้น้ำในถาดมันไม่มากขึ้น"

นายวัฒนา ย้ำว่าต้องแย่งคะแนนจากฝากนิยมเผด็จการ หรือที่สนับสนุนประชาธิปไตย แต่ไม่อาจไม่เลือกเพื่อไทย หรือพวกเข็ดแล้วเผด็จการ มันจะทำให้คะแนนที่เราผนึกกันจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ตนยินดีที่จะร่วมมือกันผลักดันประชาธิปไตย ยินดีต้อนรับจะได้เป็นพันธมิตรทางการเมือง โดยเอาประชาชนเป็นตัวตั้ง

ชัดเจนว่าแนวคิดระหว่างนักเลือกตั้งกับนักเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้นแตกต่างกันวัฒนาคิดแบบนักเลือกตั้ง ดังนั้นจึงคิดว่าพักของนายธนาธรจึงมาแย่งเสียงที่นั่งในสภา ของพรรคเพื่อไทยไป ในขณะที่นายธนาธรเองก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าการตั้งพรรคขึ้นเพื่อขยายความคิดทางการเมืองของตนเองตามที่ "สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม" ได้เคยวิเคราะห์เอาไว้ โดยยืนยันว่าพักของนายธนาธรคือนิติราษฎร์ชุดสอง (อ่านเพิ่มเติม ฝ่ายมั่นคงเตรียมตัวยัง??? พรรคการเมือง"นิติราษฎร์ ภาค 2 )

ก็คงจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าแนวคิดของนักเลือกตั้งกลับนักเคลื่อนไหวนั้นแตกต่างกันนักเลือกตั้งก็คิดผลของที่นั่งส.ส.เป็นที่ตั้งส่วนนักเคลื่อนไหวต้องการผลความสันสะเทือนทางการเมือง

งานนี้ก็ต้องจับตาดูต่อไปว่าสิ่งที่ดูเหมือนจะอยู่ข้างหรือเป็นแนวทางเดียวกัน ท้ายที่สุดจะเกิดความขัดแย้งกันหรือไม่แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วข้อเสนอของนายวัฒนาที่บอกให้นายธนาธรไปแย่งเสียงมาจากเผด็จการทหารซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะผู้ที่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์หรือผู้ที่ยืนตรงข้ามกับระบอบทักษิณนั้น มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสูงสุดในขณะที่ทิศทางของพรรคนายธนาธรชัดเจนอยู่แล้วว่ามีหลักคิดและทิศทางการเคลื่อนไหวในทางการเมืองอย่างไร