svasdssvasds

ไม่ผิดนัด! "สุเทพ-พวก" มาศาลตรวจหลักฐาน คดีร่วมกันก่อการกบฎ

ไม่ผิดนัด! "สุเทพ-พวก" มาศาลตรวจหลักฐาน คดีร่วมกันก่อการกบฎ

“สุเทพ” นำทีม กปปส. 23 คน ขึ้นศาลพร้อมกันครั้งแรกตรวจหลักฐาน หลังอัยการทยอยฟ้องร่วมกบฏ ยันให้การปฏิเสธ พร้อมขอศาลพิจารณาเป็นรายคดี อย่ารวมสำนวน ชี้ อัยการฟ้องข้อหาครอบจักรวาลเหมารวมมัดเดียว ไม่แยกแยะข้อหาแต่ละคน

ไม่ผิดนัด! "สุเทพ-พวก" มาศาลตรวจหลักฐาน คดีร่วมกันก่อการกบฎ

วันนี้ ( 19 มี.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พระสุวิทย์ ธีรธัมโม หรือ “หลวงปู่พุทธะอิสระ” อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย นครปฐม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท) , นายถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำ กปปส. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และอดีต ส.ส.สงขลา ประชาธิปัตย์ , นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีตแกนนำ กปปส. อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ , นางอัญชะลี ไพรีรัก อดีตพิธีกรเวทีชุมนุม กปปส.กับพวก รวม 23 คน ได้เดินทางมาศาล หลังศาลนัดตรวจหลักฐานในคดีร่วมกันก่อการกบฎ ฯ รวม 2 คดี คดีที่ 1 หมายเลขดำ อ.247 /61 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ปธ.มปท. กับพวรวม 9 คน เป็นจำเลย ส่วนคดีที่ 2 หมายเลขดำ อ.832/61 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นางสาว อัญชะลี ไพรีรัก กับพวกรวม 14 คน เป็นจำเลย จากการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. โดยคดีนี้จำเลยทั้ง 23 คนได้รับการประกันปล่อยตัวชั่วคราวจากศาลในวงเงินคนละ 6 แสนบาท

โดยก่อนขึ้นห้องพิจารณาคดี เพื่อร่วมตรวจพยานหลักฐาน “นายสุเทพ เทือกสุบรรณ” ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ กล่าวว่า พวกตนบรรดาจำเลย ทั้ง 2 รุ่น ซึ่งรุ่นแรก คือ แกนนำ 9 คนที่ถูกยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 24 มกราคม ศาลก็นัดให้นำพยานหลักฐานมายื่นต่อศาลในวันนี้ ส่วนรุ่นที่ 2 รวม 14 คนอัยการเพิ่งยื่นฟ้องวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ศาลก็นัดให้มาตรวจหลักฐานวันเดียวนี้ รวมทั้งหมดวันนี้จึงมีจำเลย 23 คนที่ถูกฟ้องคดีอาญาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย , กบฏต่อแผ่นดิน , เป็นอั้งยี่ , ซ่องโจร , ทำผิด พ.ร.ก.บริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ , บุกรุกสถานที่ราชการ , ขัดขวางการเลือกตั้ง ฯลฯ แต่ว่าโดยข้อเท็จจริงแล้วผู้ที่ฟ้องเป็นจำเลยทุกคนไม่ได้มีพฤติกรรมตามที่ถูกกล่าวหา บางคนเพียงแค่ขึ้นเวทีปราศรัยให้ความรู้กับประชาชน บางคนก็เพียงแค่ไปชุมนุมเป็นครั้งคราวตามโอกาสเป็นต้น ดังนั้นวันนี้ พวกตนก็จะยื่นคำร้องขอต่อศาลว่า อย่าได้นำคดีทั้ง 2 สำนวน หรือเอาจำเลยทั้ง 23 คนมารวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกันเลย เพราะจะไม่เป็นประโยชน์ต่อกระบวนการยุติธรรม จะไมเป็นประโยชน์ในการพิจารณาคดี ไม่เป็นความสะดวกทั้งสิ้น เราจะร้องขอต่อศาลให้แยกพิจารณาเป็นคดีๆ ไป แต่หากสุดท้ายศาลมีคำสั่งว่าเพื่อความสะดวกให้รวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกันหรือมีคำสั่งใด เราก็ต้องยอมรับเช่นนั้น

ไม่ผิดนัด! "สุเทพ-พวก" มาศาลตรวจหลักฐาน คดีร่วมกันก่อการกบฎ

“แน่นอนว่า ผมและแกนนำ กปปส. รวม 9 คนเราต้องรับผิดชอบทุกข้อหาอยู่แล้ว เราก็ยินดีที่จะเข้ารับการพิจารณาเป็นชุดแรก แต่บรรดา 14 คนที่มาชุดหลัง ก็อยากให้ศาลได้พิจารณาว่าเป็นไปได้หรือไม่ครับที่จะให้อัยการถอนฟ้องไปก่อน ไปทำการสอบสวนใหม่ให้ชัดเจนว่าพฤติกรรมของแต่ละท่านที่เกี่ยวข้องในการชุมนุม ที่แท้จริงแล้วมีอะไรบ้างก็ฟ้องไปตามนั้น เช่นถ้าผิดฐานขัดขวางเลือกตั้ง ก็ไปดำเนินคดีข้อหาขัดขวางการเลือกตั้ง หรือมีพฤติการณ์ไปบุกรุกสถานที่ราชการไหนก็ไปดำเนินคดีฐานบุกรุกฯ แต่บางคนแค่มาขึ้นเวทีปราศรัยผมก็ยังไม่รู้ว่าจะเอาข้อหาอะไร ดังนั้นสมควรที่สำนักงานอัยการฯ จะพิจารณาว่า หากยังยึดหลักความยุติธรรมอยู่ควรจะให้โอกาสจำเลย” นายสุเทพ ระบุ

“ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ” กล่าวอีกว่า ในทางกฎหมายหลักการดำเนินคดีอาญาต้องถือว่า จำเลยด้อยโอกาส เสียโอกาส พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อัยการ มีโอกาสทำสำนวนตั้ง 4-5 ปี แจ้งข้อหามาก็ต้องให้จำเลยได้รวบรวมข้อเท็จจริงไปแสดง แล้วจำเลยจะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการประกอบอาชีพ การทำหน้าที่ฐานะสื่อมวลชน ครูบาอาจารย์ ซึ่งจะได้ไปทำประโยชน์ให้กับสังคมตามหน้าที่ความรับผิดชอบของเขา แทนที่จะมัดรวมมามัดเดียวแล้วต้องมาศาลทุกคนทุกนัดซึ่งหากใครไม่มาสักคนก็พิจารณาคดีไม่ได้

เมื่อถามว่า การกล่าวเช่นนี้เท่ากับต้องการจะกันแนวร่วม กปปส. ทั้ง 14 คน ออกจากข้อหาร่วมกบฏ ใช่หรือไม่

นายสุเทพกล่าวปฏิเสธว่า ตนไม่ได้พูดเช่นนั้น พวกตนประชาชนทุกคนไมใช่เฉพาะ 14 คนนี้ แต่เป็นล้านๆคนที่ก่อนออกมาต่อสู้เพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน เรารู้แล้วว่าเราต้องเจออะไรบ้างและเราก็พร้อมเผชิญหน้ากับความเป็นจริง แต่เราขอความเป็นธรรมว่า อย่าเอาข้อหาครอบจักรวาลมาใส่ แต่ขอให้ว่าไปตามความผิดของแต่ละคน

ไม่ผิดนัด! "สุเทพ-พวก" มาศาลตรวจหลักฐาน คดีร่วมกันก่อการกบฎ

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับแนวร่วม กปปส. ที่เหลืออีก 27 ราย ประสานให้มาพบกับอัยการตามวันนัดครั้งที่ 3 ในวันที่ 19 เมษายนนี้หรือไม่ หลังจากเลื่อนมาแล้วถึง 2 ครั้ง นายสุเทพ กล่าวว่า อันนั้นก็เป็นความจำเป็นของแต่ละคน ซึ่งบางคนก็ต้องเดินทางไปต่างประเทศ บางคนก็มีภารกิจอย่างอื่นก็มีเหตุผลที่จะเลื่อน ส่วนตัวยังไม่ได้ประชุมพิจารณาอะไรกัน เท่าที่พูดคุยกันนี้ก็บรรดากลุ่มที่ถูกฟ้องแล้วเพราะร่วมกันกันต่อสู้คดี ซึ่งพวกเราให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พวกตนเป็นพลเมืองดีออกมาสู้เพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน ไม่ได้ทำอะไรที่ทำผิดคิดร้ายต่อประเทศชาติต่อประชาชน คดีอาญา

เมื่อถามว่าทราบเรื่องที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน หนึ่งในจำเลยร่วม ได้ฟ้องกลับอดีตอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ กับการสั่งฟ้องคดี ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง หรือไม่

นายสุเทพกล่าวว่า จริงๆ แล้วตนก็เห็นด้วยแต่ว่าไม่ได้คุยกับนายไพบูลย์ ใจจริงตนก็คิดๆ อยู่ว่าน่าจะทบทวนว่าสิ่งที่อัยการได้ดำเนินการมาถูกต้องหรือไม่ อัยการถ้าดำเนินการผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีเหมือนกัน ซึ่งตนยังคิดว่างานนี้อัยการไม่ได้ใช้ความรู้ความสามารถจิตวิญญาณในฐานะที่เป็นผู้อยู่ในกระบวนการยุติธรรมให้สมบูรณ์

related