ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
วันที่ 26 มี.ค.61 นาย ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์แถลงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว " Phumtham Wechayachai " ระบุว่า
คำแถลงของรักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทยกรณีการจัดให้มีการยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย
อีก 5 - 6 วัน ก็จะถึงช่วงวาระที่ผู้มีอำนาจ เริ่มกระบวนการที่จะรีเซ็ตสมาชิกพรรคการเมืองเดิม ทุกพรรค โดยวิธีการที่กำหนดไว้ใน พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 แก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่ง คสชที่ 53/2560 ที่ผู้มีอำนาจมีเจตนาให้พรรคการเมืองเดิมทุกพรรคและสมาชิกพรรค ต้องดำเนินการหลายประการ ภายในระยะเวลาที่กำหนด
หากทำมิได้ตามเงื่อนไข อาจพ้นจากสมาชิกพรรคการเมืองเดิม อาจต้องเผชิญชะตากรรมต้องยุบเลิก หรือมิฉะนั้นก็อาจไม่สามารถส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นได้ ซึ่งพอจะสรุปสิ่งที่สมาชิกพรรคและพรรคการเมืองเดิม ต้องดำเนินการ จากคำสั่ง คสชที่ 53/2560 พอสังเขปได้ดังนี้
ข้อกำหนดดังกล่าว นับได้ว่าสร้างภาระและความยุ่งยากแก่สมาชิกพรรคการเมือง และเป็นที่คาดหมายว่าสมาชิกพรรคการเมืองเดิมจะขาดหาย พ้นสมาชิกภาพเป็นจำนวนมาก
คำสั่งที่ 53/2560 บังคับให้พรรคการเมืองจัดตั้งสาขาให้ได้ครบทั้ง 4 ภาค อย่างน้อยภาคละหนึ่งสาขา การจัดตั้งสาขาจะต้องมีสมาชิกในสาขานั้นๆ ไม่ต่ำกว่า 500คน และหากไม่สามารถจัดตั้งสาขาได้ตามที่กล่าวมา พรรคการเมืองนั้นๆ จะไม่สามารถส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้
ตามที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นว่า...
หากพรรคการเมืองเดิมที่ประสงค์จะเข้าร่วมในเวทีการแข่งขัน จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งตามที่จะเกิดขึ้นได้ พรรคการเมืองเดิมจะมีภาระหน้าที่ต้องดำเนินการหลายประการ บางกรณียังต้องรอจนกว่าจะมีการปลดล็อกยกเลิกคำสั่ง คสช. เพื่อให้พรรคการเมืองเดิมทุกพรรคสามารถจัดทำให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และยังมีภารกิจอีกมากมายที่ต้องเตรียมการในการดำเนินการให้มีสมาชิกพรรคทั่วทุกเขตเลือกตั้ง หากประสงค์จะส่งผู้สมัครเพื่อรองรับการจัดทำไพรมารี
ดังนั้น หากพิจารณาตามเงื่อนไขที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นว่า การที่พรรคการเมืองเชิญชวนสมาชิกพรรคการเมือง / นักการเมืองและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตามกฎหมายทุกท่าน มาแสดงตัวที่พรรคเพื่อยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคต่อหัวหน้าพรรค ล้วนเป็นเรื่องที่ทุกพรรคการเมืองต้องปฏิบัติตามเงื่อนเวลาที่กำหนดทั้งสิ้น เป็นการดำเนินตามที่กฎหมายกำหนดบังคับไว้ให้ดำเนินการ หากไม่ทำ พรรคการเมืองและสมาชิกพรรคจะเสียหาย จึงหาใช่เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย หรือมิใช่เป็นการเช็คชื่อในความหมายทางการเมืองที่เข้าใจกันแต่ประการใด
ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง เดือน เม.ย.นี้เป็นช่วงที่ตรงกับเทศกาลสงกรานต์ ตามประเพณีอันดีงามของไทยแต่โบราณ จะมีการรดน้ำเพื่อขอพรผู้อาวุโสที่เป็นที่เคารพรักของทุกครอบครัว พรรคเพื่อไทยมีการดำเนินการตามประเพณีเช่นนี้มาเป็นปกติทุกปี
และเพื่อมิให้กระทบช่วงเวลาที่สมาชิกพรรคแต่ละท่านจะไปร่วมงานประเพณีตามภูมิลำเนาของตน จึงถือโอกาสนี้ กำหนดให้วันพุธที่ 4 เม.ย.2561 เป็นวันที่จะนัดพบกันเพื่อรดน้ำขอพรผู้อาวุโสของพรรค พร้อมๆ กับการเปิดดำเนินการให้มีการยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคในคราวเดียวกัน ตั้งแต่ 09.00 น.เป็นต้นไป และเปิดทำการให้มีการยืนยันความเป็นสมาชิกต่อเนื่องกันไปในช่วงเวลาตามที่กฎหมายกำหนดไว้ระหว่าง 1 – 30 เม.ย.2561
อย่างไรก็ดีเมื่อพ้นวันที่ 30 เมษายน 2561 หากสมาชิกท่านใดมิได้มายืนยันความเป็นสมาชิกและคุณสมบัติของตนตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ก็จะพ้นจากความเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยทันทีโดยอัตโนมัติ
อนึ่ง มีประเด็นที่มีความสำคัญยิ่งอีกประเด็นหนึ่งคือ ผมไม่เห็นเหตุผลใดที่ “คสช.”และผู้มีอำนาจในปัจจุบัน จะยังไม่ยอมปลดล็อกพรรคการเมือง เพื่อให้พรรคได้เตรียมการให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายตามภารกิจที่ผมกล่าวมาแล้วข้างต้น เว้นเสียแต่รัฐบาล หรือผู้มีอำนาจในปัจจุบันจะมีเจตนาแอบแฝงเพื่อหวังสร้างความยุ่งยากให้พรรคการเมืองเดิม และหวังที่จะตระเตรียมสร้างเงื่อนไขให้ตนหรือพรรคพวกของตนได้รับประโยชน์จากความยุ่งยากดังกล่าว เพียงเพื่อต้องการที่จะหาโอกาสที่จะสืบทอดอำนาจต่อไป
จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน และขอเรียกร้อง ให้ “คสช.”และผู้มีอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รีบปลดล็อกพรรคการเมืองและดำเนินการให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายต่อไป
ภูมิธรรม เวชยชัย
รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย
26 มีนาคม 2561