ครม.ผ่าน! “มาตรการป้องกันทุจริตส่วนราชการ” ห้ามกลับมานั่งเก้าอี้เดิมหรือดีกว่า3ปี

วันนี้(27 มี.ค.)พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาคราชการ ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เป็นผู้เสนอ โดยที่ผ่านมา มีการร้องเรียนการทุจริตในหน่วยงานราชการ ต่อจากนี้ จึงขอให้หัวหน้าหน่วยงานราชการ เริ่มดำเนินการตรวจสอบข้อมูลทันทีให้ได้ผลเบื้องต้นใน 7 วัน นับจากวันที่ได้รับข้อมูล และตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน หากพบข้อเท็จจริงว่า มีการทุจริต ให้หัวหน้าส่วนราชการมีอำนาจปรับย้ายบุคคลที่ถูกชี้มูลมาประจำการที่สำนักนายกรัฐมนตรีก่อนได้ โดยขณะนี้ มีตำแหน่งรองรับกว่า 100 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ หากพบว่า มีหลักฐานชัดเจนที่สามารถชี้มูลได้ ให้ผู้บริหารส่วนราชการสามารถดำเนินมาตรการทางวินัยได้ทันที ทั้งการไล่ออก ตัดเงินเดือน หรือ โยกย้ายตำแหน่ง และห้ามกลับมาดำรงตำแหน่งเดิม หรือตำแหน่งที่ดีกว่าเดิมเป็นระยะเวลา 3 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ทุจริตกลับมากลั่นแกล้งพยาน โดยไม่ต้องรอการดำเนินคดีทางอาญา เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของราชการเป็นไปอย่างโปร่งใส และจะต้องมีหลักประกันความปลอดภัยแก่พยานบุคคล หรือข้าราชการชั้นผู้น้อยด้วย แต่หากพยานให้ข้อมูลเท็จก็จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด

ทั้งนี้ มีรายงานว่า รัฐบาลเตรียมออกคำสั่งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับสูง จำนวน 14 ราย ที่เกี่ยวข้องกับคดีการค้ามนุษย์ มาปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักนายกรัฐมนตรี ในช่วงบ่ายวันนี้ (27 มี.ค.) เพื่อเปิดทางให้ต้นสังกัดได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยจะมีเวลาดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอน 30 วัน หรือ สามารถขอขยายระยะเวลาตรวจสอบได้อีก 30 วัน และหากพบข้อมูลการทุจริต หัวหน้าส่วนราชการ ก็สามารถลงโทษทางวินัยได้ทันที และส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีทางอาญาต่อไป