svasdssvasds

“บิ๊กตู่” ขอ! ข้าราชการมองประชาชนเป็นครอบครัว ย้ำจำเป็นต้องลงโทษข้าราชการที่ทำผิด

“บิ๊กตู่” ขอ! ข้าราชการมองประชาชนเป็นครอบครัว ย้ำจำเป็นต้องลงโทษข้าราชการที่ทำผิด

นายกฯ ระบุข้าราชการพลเรือนเป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อนประเทศ ขอมองประชาชนเป็นครอบครัว แจงจำเป็นต้องใช้คำสั่งทางปกครองลงโทษคนทำผิด พร้อมให้กำลังใจข้าราชการทำงาน ต้องมีความเข้มแข็งและฝืนในเรื่องไม่ถูกต้อง

วันนี้ (2เม.ย.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวให้โอวาทข้าราชการพลเรือน ในกิจกรรมวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี พ.ศ. 2561 ตอนหนึ่งว่า ตนขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัล ซึ่งส่วนตัวอยากมอบรางวัลให้กับทุกคน หากสามารถทำงานได้ ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีข้าราชการพลเรือน 2 ล้านคน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศภายใต้การทำงานของรัฐบาล บางส่วนเสนอให้ลดจำนวนข้าราชการลง แต่หากทำแบบนั้นจะต้องเตรียมความพร้อมให้ประชาชนก่อน โดยสิ่งสำคัญหัวหน้าส่วนราชการต้องทำงานเกื้อกูลกัน ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ให้ดูแลประชาชนให้มากที่สุด ไม่ให้ติดขัดด้วยกฎระเบียบต่างๆ แต่ต้องไม่ผิดกฎหมาย จึงต้องมีการทำงานอย่างบูรณาการกับหน่วยวานอื่นๆ ด้วย และมองประชาชนเป็นครอบครัว

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า จะมีรัฐบาลดีหรือไม่ดีก็อยู่ที่ข้าราชการด้วย ที่ผ่านมามีหลายรัฐบาล มีอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งข้าราชการก็ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย เป็นคนดี มีจริยธรรม คุณธรรม พร้อมกล่าวว่า ขณะนี้จำเป็นต้องใช้กฎหมายทางการปกครองบ้าง เพราะทุกคนทราบอยู่แล้วว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น และวันหน้าต้องไม่มีอีก เพราะสุดท้ายแล้วคนที่ต้องรับโทษทางวินัย ก็คือข้าราชการ ดังนั้น วันหน้าจะต้องฝืนและเข้มแข็งให้ได้ และตนขอให้กำลังใจในวันข้างหน้าน้า ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนหรือใครไปใครมา ให้ถือเป็นเรื่องอนาคต แต่การบริหารงานในขณะนี้อยู่ที่ข้าราชการทุกคน

พร้อมกันนี้พลเอกประยุทธ์ กล่าวยืนยันว่า ไม่มีนโยบายเพื่อตัวเอง หรือเพื่อ คสช.หรือใครทั้งสิ้น แต่เป็นการเตรียมการสู่การเป็น ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ และทำอย่างไรให้ไทยเป็นประชาธิปไตยที่เหมาะสม ไม่ย้อนกลับไปเป็นเหมือนเดิม และขณะนี้มีความเคลื่อนไหวมากมาย แต่ตนไม่ได้ตัดสินใจผิดหรือถูก แต่ยืนยันว่า คสช.ต้องการทำให้ประเทศเดินหน้า ดังนั้นข้าราชการจึงต้องช่วยกันขับเคลื่อน และนำพระราโชบายของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงและเรื่องการแก้ปัญหาโดยเข้าใจเข้าถึง และพัฒนา ซึ่งนโยบายไทยนิยมไม่ได้เป็นการหาเสียง ไม่ใช่ประชานิยม แต่เป็นการคุยร่วมกันเพื่อแก้ปัญหา และหางบประมาณแก้ปัญหาให้ได้ และต้องการสอนให้ประชาชนคิดเองได้ ไม่ใช่เพราะประชาชนไม่เก่ง แต่ไม่มีคนชี้แนะ ชี้นำ และยืนยันอีกว่า ไม่ใช่เพื่อคสช.หรือรัฐบาล แต่ต้องทำให้ประชาชนร่วมกันให้ได้

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตนเองหลับยังคิดและฝันถึงเรื่องที่ยังทำไม่สำเร็จ คิดถึงแต่เรื่องแบบนี้ ไม่ได้คิดเพื่อเตรียมการสู่อนาคตทางการเมือง หรือเป็นรัฐบาล เพราะทุกเรื่องโชคชะตาฟ้าลิขิตมาแล้ว หากใครเป็นคนดีฟ้าก็ลิขิตไว้แล้วพร้อมย้ำอีกว่า คสช.พร้อมแก้ปัญหาให้ทุกคน โดยเฉพาะปัญหาที่เป็นวาระของชาติหรือปัญหาที่มีความสลับสับซ้อนภายใต้กฎหมายที่มีอยู่โดยไม่สร้างภาระให้ประชาชน แต่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความสงบความเรียบร้อยต้องการเสถียรภาพของบ้านเมืองและมีเศรษฐกิจดีขึ้น และเตรียมการรองรับประชาธิปไตยสากลให้ได้ แม้รัฐบาลจะมีอำนาจ แต่ต้องใช้อำนาจไม่ให้กระทบและเสื่อมเสีย

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า พลังโซเชียลมีเดีย ที่มีการบิดเบือนข้อมูลต่างๆ ทำให้การบริหารงานราชการยากขึ้น ดังนั้นจึงขอให้ข้าราชการปรับตัว เรื่องใดที่เป็นเรื่องราวก็ต้องแก้ไข แต่เรื่องที่ไม่จริงก็ต้องชี้แจง

 

related