นายกรัฐมนตรี ยืนยัน รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขข้อพิพาทอาคารศาลอุทธรณ์ภาค 5 และที่พักตุลาการ จังหวัดเชียงใหม่ ขอใช้เป็นที่ทำประโยชน์ร่วมกัน หากทุบทิ้งกระทบสัญญาและอาจถูกฟ้องร้อง และเชื่อว่าตุลาการเข้าพักไม่ได้ เพราะภาคประชาชนคัดค้าน
วันนี้(10เม.ย.)พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงข้อพิพาทอาคารศาลอุทธรณ์ภาค 5 และบ้านพักตุลาการ จังหวัดเชียงใหม่ ว่า โครงการมี 3 ส่วน ซึ่งได้รับการอนุมัติแล้ว ส่วนแรกที่สำนักงาน ซึ่งไม่มีปัญหา ส่วนที่ 2 คือที่พักที่สูงขึ้นไป มีปัญหาเนื่องจากไม่ได้รับความเห็นชอบจากประชาชน และส่วนที่ 3 คืออยู่สูงกว่าที่พัก ซึ่งไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้อีก แม้ได้รับอนุญาต เพราะถูกคัดค้านจากประชาชน ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนรัฐบาลเข้ามา แต่รัฐบาลจะเดินหน้าแก้ไขให้เกิดความชัดเจนตามหลักกฎหมาย และความต้องการของประชาชน แต่ต้องคำนึงถึงการทำสัญญาของโครงการด้วย เพราะภาครัฐเป็นคู่สัญญาในการก่อสร้างและมีโอกาสถูกฟ้องร้องหายุติโครงการ ดังนั้น จึงต้องพิจารณาถึงการใช้งบประมาณกับโครงการ และอาจใช้อาคารดังกล่าวให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน เช่น การสถานที่จัดฝึกอบรมเพื่อประชาชน เป็นต้น เพราะศาลคงเข้าไปใช้พื้นที่ไม่ได้ เพราะประชาชนไม่ยินยอม นอกจากนี้ขอความร่วมมืออย่าเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขปัญหาอยู่แล้ว
"มีโอกาสฟ้องร้องกัน ต้องแก้ยังไง คิดดูว่า เสนอว่าทุบทิ้งง่ายแหละ แต่งบที่ใช้ล่ะทำไง งบภาครัฐ ไม่ใช่ตกน้ำไม่ได้ไหลตกไฟไม่ไหม้นะ ใช้ประโยชน์อื่นได้ไหม เช่น ฝึกอบรมเพื่อประชาชน ได้ไหม ศาลคงใช้ไม่ได้ เพราะประชาชนไม่ยินยอม หน่วยงานรัฐ และกระทรวงทรัพยฯ ดูแลอยู่ ใจเย็นๆ อย่าเดินขบวนการอีก ทุบทิ้งง่ายแต่ต้องมีคนรับผิดชอบงบฯ รัฐบาลไม่ใช่คู่กรณีใคร รัฐบาถูกเรียกค่าเสียหาย ใครทำสัญญาเขาล่ะ ข้าราชการนั่นแหละ เปิดเวทีก็เถียงกัน คนก็จะทุบๆ ไม่สนใจไม่ได้ รัฐบาลเข้ามาต้องแก้ปัญหา"