svasdssvasds

"อดีตรมว.- ส.ส.เพื่อไทย" ตบเท้ารดน้ำสงกรานต์ "หญิงหน่อย"

"อดีตรมว.- ส.ส.เพื่อไทย" ตบเท้ารดน้ำสงกรานต์ "หญิงหน่อย"

"หญิงหน่อย" เปิดบ้าน อดีต รมว.- ส.ส. เพื่อไทยตบเท้า ร่วมรดน้ำสงกรานต์คึกคัก ด้าน "นพ.สุรวิทย์ " ย้ำอดีตนักการเมือง "เคารพ รัก และมั่นใจในคุณหญิงมาก"

“คุณหญิงสุดารัตน์” เปิดบ้านให้รดน้ำดำหัว แก้ข่าวไม่ได้เช็คชื่อ ส.ส. ระบุอยู่พรรคเดียวกันต้องช่วยกันอยู่แล้ว แจงไม่คิดเป็นหัวหน้าพรรคเพราะไม่ใช่ตำแหน่งที่หอมหวน ชี้ “ประยุทธ์”ดึง “สนธยา” นั่งที่ปรึกษาฯ หวังลงสนามการเมือง ปูทางเป็นนายกฯ ต่อ ขอประกาศตัวชัดเจนหยุดเอาเปรียบคู่แข่งอื่นๆ

วันนี้( 18 เม.ย.) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการจัดงานรดน้ำดำหัวซึ่งตรงกับวันที่แกนำพรรคเพื่อไทยคนอื่นๆ นัดออกรอบตีกอล์ฟกับตระกูล “สะสมทรัพย์” ว่า ไม่มีนัยยะทางการเมืองและขออย่านำไปเป็นประเด็นการเมือง เพราะหลายคนที่มาร่วมงานวันนี้จะเดินทางไปตีกอล์ฟต่อ เพราะเวลาไม่ตรงกัน ซึ่งทุกคนอยู่พรรคเดียวกันก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว วันนี้ถือเป็นธรรมเนียมที่จัดขึ้นทุกปีให้มาร่วมรดน้ำอวยพรในวันสงกรานต์และมีประชาชนในพื้นที่มาร่วมงานด้วย ส่วนอดีต ส.ส.ที่มาร่วมงานวันนี้เป็นคนที่ทำงานร่วมกันอยู่แล้วและมาร่วมงานทุกปีซึ่งจัดรวมกับวันคล้ายวันเกิดจองตนในวันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปี จึงไม่ใช่เป็นการเช็คชื่อ เพราะตนไม่ใช่คุณครู ขออย่าอคติ เพราะหากสื่อมาร่วมงานทุกปีก็จะเห็น

 

"อดีตรมว.- ส.ส.เพื่อไทย" ตบเท้ารดน้ำสงกรานต์ "หญิงหน่อย"

ส่วนการยืนยันสมาชิกพรรคและหาหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า สำหรับตนคิดว่าพลตำรวจโทวิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าคนปัจจุบันและคณะกรรมการบริหารพรรคทำหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมาดีอยู่แล้ว จึงต้องชื่นชมและให้เกียรติ เคารพการทำงานของทุกคน ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอะไร และต้องส่งเสริมให้ทำหน้าที่ต่อไป และส่วนตัวพร้อมจะสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแน่นอน

ส่วนที่เคยพูดว่าการเป็นหัวหน้าพรรคเหนื่อยไม่มีใครอยากเป็น ว่า หัวหน้าพรรคคนที่เป็นต่องเหนื่อยและเสียสละเพราะคนนำองค์กรไม่มีใครสบายทุกคนเหนื่อย ซึ่งกระแสข่าวที่ระบุว่ามีการแย่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคกันนั้นไม่มีความจริง ขออย่าคิดว่าคนจะแย่งกันเป็นหัวหน้าพรรคเพราะภายใต้กติกาที่ คสช.ร่างขึ้นมาใหม่ก็ยิ่งทำงานลำบาก ดังนั้นหัวหน้าพรรคไม่ใช่ตำแหน่งที่หอมหวน แต่หน้าที่ของเพื่อไทย และพรรคการเมืองต้องหาวิธีการในการแก้ปัญหาที่หมักหมมตั้งแต่ปฏิวัติมาให้ชาวบ้านให้ได้ พรรคการเมืองต้องหาแก้ปัญหาปากท้อง หาวิธีอำนวยความสะดวกให้ทำมาหากินได้ ไม่ใช่ใช้อำนาจในการปิดกั้น หรือการแย่งชิงอำนาจ พร้อมยืนยันว่าภายในพรรคมีความเป็นเอกภาพ รวมทั้งการนัดหมายในวันนี้ก็ขออย่าตั้งข้อสังเกตเพราะเป็นพรรคเดียวกันยอมช่วยเหลือกัน

 

"อดีตรมว.- ส.ส.เพื่อไทย" ตบเท้ารดน้ำสงกรานต์ "หญิงหน่อย"

ส่วนที่มีการดึงนายสนธยา คุณปลื้มเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีนั้น ถือว่ามีความชัดเจนอยุ่แล้วว่าพลเอกประยุทธ์ จะเข้ามาสู่การเมืองและต้องการเป็นนายกต่อ ซึ่งมีความชัดเจนอยู่แล้ว โดย คสช.เป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญที่เอื้อต่อการให้ผู้มีอำนาจในขณะนี้ได้สืบทอดอำนาจต่อไป จึงสามารถเข้ามาได้ในหลายวิธี คือ การเลื่อนการเลือกตั้ง หากเลื่อนไม่ได้ ก็ต้องหาวิธีที่ทำมห้การเลือดตั้งได้เปรียบที่สุด ซึ่งสามารถใช้อำนาจที่มีอยู่ได้ แต่จะทำให้การกติกาตามระบอบประชาธิปไตยบิดเบี้ยวไป ตั้งแต่การให้อำนาจ สว ที่แต่งตั้งสามารถเลือกนายกฯ ได้ ซึ่งคนแต่งตั้งกับอำนาจที่มาจากประชาชน แต่กลับมีคนกลุ่มหนึ่งมาแต่งตั้งคน 250 คนให้มีอำนาจเท่ากับคนที่ประชาชนเลือก จึงเป็นการปูทางสู่การสืบทอดอำนาจที่ชัดเจนอยู่แล้ว และเป็นการตัดสิทธิของประชาชนอย่างมาก ทำให้การเข้าสู่ประชาธิปไตยไม่ใช่ ปชต. อย่างแท้จริงและไม่สะท้อนความต้องการของ ปชช และใครจะเข้าสู่การเมืองเป็นเรื่องที่ทุกคนยินดีที่พลเอกประยุทธ์จะแสดงตัวให้เกิดความชัดเจนว่าจะเข้าสู่การเมือง และเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา

"พลเอกประยุทธ์อยากเข้าการเมืองก็แสดงตัวและบอกมาเลยว่าจะสังกัดพรรคใด นักการเมืองทุกคนก็ประกาศชัดเจนว่าอยู่ตรงไหน ถึงแม้ว่า คสช จะได้เปรียบจากวิธีการต่างๆ ที่อำพลางไว้ก็ไม่ควร มันควรจะต้องสง่างามในการกลับเข้ามาแล้วให้ประชาชนตัดสินใจ ให้ประชาชนเลือก ขณะเดียวกัน ในช่วงที่อยู่ในอำนาจ ถ้าเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้งก็จะไม่ทำการใดๆ ที่จะเอาเปรียบคู่แข่งการเมืองอื่นๆ แต่ขณะนี้มีการตั้งคำถามว่าทั้งงบประมาณไทยนิยมถูกมองว่าเป็นการปูฐานเสียงและมีมาตรา 44 ห้ามทุกพรรคดำเนินกติกาการเมือง แต่กลับใช้งบประมาณและอำนาจอย่างเต็มที่ ใช้ฝ่ายเดียว โดยห้ามคู่แข่งทุกพรรคห้ามเคลื่อนไหว ซึ่งไม่ใช่กติกาที่ยุติธรรม ไม่ใช่สิ่งที่สุภาพชนที่ควรทำ เป็นการเอาเปรียบทุกมิติ และไม่เหมาะสม ถ้าเงินจำนวนนั้นทำให้ประชาชนได้ประโยชน์จริง ยังถือว่าสนับสนุนได้ แต่ถ้าดูงบประมาณกว่าล้านล้านบาทที่ไปสู่รากหญ้าหรือเศรษฐกิจฐานราก ยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ สุดท้ายกลายเป็นการทำเพื่อคะแนนเสียง //คัดชน///ไม่ใช่เรื่องผิดถ้าพลเอกประยุทธ์จะกลับคำ แต่เมื่อตัดสินใจแล้วควรเปิดเผยความตั้งใจและวิธีการให้เกิดความสง่างามว่าจะอยู่พรรคไหน หรือสนับสนุนพรรคไหน ซึ่งจะไม่มีใครว่าอะไรได้ เพราะการที่มีคนอาสาเข้ามาทำงานเพื่อประชาชนเป็นเรื่องที่ดี แต่วิธีลับลวงพรางจะยิ่งทำให้ทุกคนตั้งคำถาม ถ้าเปิดเผยและแข่งกันก้วยกติกาที่เป็นธรรม ประชาชนจะได้ตัดสินใจเอง และอาจจะเลือกพลเอกประยุทธ์ได้ ไม่ใช่ใช้อำนาจกดหัวคนอื่น ใช้อำนาจเพื่อหาประโยชน์เข้าตัวเอง " คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

 

"อดีตรมว.- ส.ส.เพื่อไทย" ตบเท้ารดน้ำสงกรานต์ "หญิงหน่อย"

ส่วนท่าทีของพรรคพลังชล หลังจากนายสนธยาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ต่อไป จะร่วมมือกับพรรคเพื่อไทยได้อยู่หรือไม่นั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เดิมเป็นคนละพรรคกันอยู่แล้ว ซึ่งในอดีตก็เป็นความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนร่วม ซึ่งขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะร่วมมือหรือไม่ แต่ขึ้นอยู่กับประเด็น ถ้าเป็นประเด็นส่วนรวม ชาวบ้านอยากได้ อยากเห็นและจำเป็นต้องมีเสียงร่วมกันก็ทำได้ แต่ทั้งหมดความร่วมมือต้องอยู่บนพื้นฐานประโยชน์ส่วนร่วมเท่านั้น ส่วนการร่วมรัฐบาลยังตอบไม่ได้ แต่ที่ชัดเจนคือพรรคพลังชลคงร่วมกับพลเอกประยุทธ์ แต่ถ้านัยยะนั้นเพื่ออำนาจ คงไม่ร่วมกับใครเพื่ออำนาจที่ไม่ถูกต้อง

ส่วนที่ผู้มีอำนาจพยายามดึงตัว ส.ส.จากพรรคต่างๆ นั้น ส่วนตัวได้รับความมั่นใจว่าคนที่ร่วมกันทำงานในฝั่งของตนมีอุดมการณ์ไม่คิดเอาประโยชน์ทั้งเงินทองทรัพย์สินต่างๆ อยากทำงานเพื่อประชาชนจริงๆ และต่อสู้เผด็จการรักษาประชาธิปไตยหามาตรการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนตั้งแต่เป็นพรรคไทยรักไทย ทั้งมาตรการที่สามารถแก้ไขปัญหาปากท้องให้ประชาชนได้จริงไม่ใช่พูดเก่ง หรือมีอำนาจอย่างเดียวจึงเลือกที่จะอยู่พรรคไทยรักไทย และถ้าไม่มีอุดมการณ์ก็คงแตกกันตั้งแต่ยุบพรรคไปแล้ว ซึ่งคนส่วนใหญ่คิดแบบนี้จึงไม่น่าวิตก

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า การที่ คสช. พยายามดึงพรรคการเมืองขนาดเล็กมาร่วม นั้น ส่วนตัวมองว่า เป้าหมายของพรรคการเมืองคือการแก้ปัญหาให้ประชาชนและให้ประชาชนตัดสินใจในวันเลือกตั้ง ขณะที่โรดแมปการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 62 นั้น ส่วนตัวคิดว่าจะเกิดการเลือกตั้งขึ้น เพราะจากท่าทีของผู้มีอำนาจตนคิดว่าไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง

related