svasdssvasds

สมช.จ่อชง ครม. ตั้งฐานข้อมูลอัตตลักษณ์แห่งชาติ แก้ปัญหาอาชญากรรม-แรงงาน

สมช.จ่อชง ครม. ตั้งฐานข้อมูลอัตตลักษณ์แห่งชาติ แก้ปัญหาอาชญากรรม-แรงงาน

สมช.เตรียมเสนอ ครม. ลงนามคำสั่งบริหารข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลแห่งชาติ แก้ปัญหาอาชญากรรมและแรงงาน ให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 2 ปี เพื่อให้เกิดศูนย์กลางข้อมูลด้านอัตลักษณ์บุคคลของประเทศ ที่ทุกหน่วยงานดึงไปใช้งานได้

วันนี้( 1 พ.ค.) พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบูรณาการฐานข้อมูลด้านความมั่นคง ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการ 3 คณะ ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการจัดทำฐานข้อมูลด้านความมั่นคงในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ คณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางการจัดทำฐานข้อมูลด้านความมั่นคง และ คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาแนวทางการจัดตั้งฐานข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลแห่งชาติ พร้อมเห็นชอบร่างคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องการบริหารข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลแห่งชาติ ตามที่คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ พิจารณาแนวทางจัดตั้งฐานข้อมูลอัตตลักษณ์บุคคลแห่งชาติเสนอ รวมทั้งแนวทางการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เป็นหน่วยงานกลาง พร้อมมอบให้สมช. นำร่างคำสั่งดังกล่าว เสนอ ครม.รับทราบและให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาลงนาม เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้รวมศูนย์การทำงาน ด้านข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล เช่น การจัดเก็บลายนิ้วมือ DNA ใบหน้า ม่านตา เพื่อใช้ในการติดตามตัว และแก้ปัญหาคดีอาชญากรรม และ แรงงาน โดยเป็นข้อมูลกลางที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถนำไปใช้ เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ด้านพลโทคงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พลเอกประวิตร ได้สั่งการในที่ประชุมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวบรวมข้อมูลทั้งหมด ส่งให้กับหน่วยงานกลางของ สมช. ได้จัดเก็บ โดยคาดจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 2 ปี อีกทั้งยังกำชับให้หน่วยงานกลางในการจัดเก็บข้อมูลและจังหวัดชายแดนภาคใต้ สนับสนุนข้อมูล ให้กับ กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้านำไปใช้ นอกจากนี้หากต้องการข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ก็ให้รีบดำเนินการจัดทำบันทึกข้อตกลงในการใช้ฐานข้อมูลร่วมกัน ซึ่งการจัดทำฐานข้อมูลทั้งหมดก้เพื่อช่วยลดความซ้ำซ้อน ในเรื่องของการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล เนื่องจากจะดำเนินการตรวจสอบเพียงครั้งเดียว และการดำเนินธุรกรรมต่างๆหลังจากนี้จะเกิดความสะดวกรวดเร็วกับประชาชนมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหางานด้านความมั่นคงที่จะครอบคลุม ทั้งการปลอมแปลงบัตร การทำธุรกรรมต่างๆ ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติและตามแนวชายแดน

related