“สมคิด” แนะ นักการเมืองหยุด! สร้างวาทกรรมดูดส้วม

วันนี้(3พ.ค.)นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้ กำลังอยูาในระดับที่ดี  เพราะมีระดับความความเชื่อมั่นสูงสุดในรอบ 4 ปี แต่เศรษฐกิจของไทยสามารถทำให้ดีได้มากกว่านี้ หากสามารถทำทุกอย่างเป็นไปตามแผน สิ่งสำคัญคือ การปฎิรูปประเทศ ทั้งโครงสร้างทางเศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐานของประเทศ การพัฒนาดิจิทัล และระบบฐานข้อมูลกลาง ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นสิ่งที่การเมืองต้องให้ความสำคัญ เพราะตัวขับเคลื่อนหลักประเทศ คือ พรรคการเมือง หากพรรคการเมืองใช้เวลาไปกำหนดนโยบายที่ดี และเฟ้นหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ก็จะเป็นสิ่งที่ดีในการบริหารประเทศต่อไป แต่หากการเมืองคิดแต่เรื่องการเมือง หรือ โจมตีอีกฝ่าย ก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้น ขณะที่ ประชาชนก็จะเกิดความเบื่อหน่าย เหมือนกับนายกรัฐมนตรี ที่เคยกล่าวว่า ไม่ได้ดูดนักการเมือง แต่ทั้งนี้ หากมีคนย้ายบ้าน แสดงว่า บ้านที่อยู่แล้วไม่มีความสุขหรือไม่ ดังนั้น แต่ละคนต้องพัฒนาบ้าน เพื่อเป็นบ้านที่ให้คนไทยฝากความหวังไว้ได้

พร้อมยังแนะนำว่า ให้พรรคการเมืองใช้เวลาในช่วงก่อนเลือกตั้ง ไปคัดสรรคนที่ดี คิดนโยบายใหม่ๆ เตรียมเอาไว้สำหรับการเลือกตั้ง และเมื่อผ่านการเลือกตั้งไปแล้ว ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล หรือได้เข้าร่วมรัฐบาล ก็สามารถทำงานเพื่อประเทศได้ สิ่งเหล่านี้ต้องเป็นสิ่งที่ต้องช่วยกันสื่อความหมายออกไป ไม่ใช่พูดแต่เรื่องการดูดตัวนักการเมือง ซึ่งไร้สาระ ผ่านมาตั้งกี่สิบปี ก็ยังอยู่เพียงแค่นี้

ส่วนที่มีนักการเมืองออกมาเปรียบว่า การดึงตัวนักการเมือง คล้ายรถดูดส้วม นั้น  ส่วนตัวรู้จักกับคนที่ออกมาพูดเป็นอย่างดี

แต่ยังไม่ทราบว่า จะต้องมีพรรคการเมืองมาสนับสนุนให้การทำงานนายกรัฐมนตรี เดินหน้าต่อได้หรือไม่ แต่จากการวิเคราะห์สถานการณ์ ในอนาคต ความต่อเนื่องของการขับเคลื่อนประเทศเป็นสิ่งจำเป็น เพราะที่ผ่านมา ก็ถือว่าผลงานของรัฐบาลเป็นไปได้ดี แต่หากจะมีใครเข้ามาทำงานได้ดีกว่า ก็เป็นสิ่งที่ทำได้ อยู่ที่ประชาชนเป็นผู้เลือก ซึ่งจะมีใคร หรือ พรรคไหน สนับสนุนใคร หรือไม่ ยังไม่เกี่ยวกับตนเอง วันนี้หน้าที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลเศรษฐกิจ ก็ทำหน้าที่ด้านเศรษฐกิจ และย้ำว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนไม่เคยตอบโต้ทางการเมืองกับใคร เพราะทุกคนต่างรู้จักกัน เป็นเพื่อนกันทั้งหมด และวันข้างหน้าอาจจะต้องทำงานร่วมกัน ดังนั้น อยากใช้เวลาส่วนใหญ่คิดสิ่งดีๆจะดีกว่า

นายสมคิด ยังมองว่า การเมืองหลังจากนี้จะต้องมีคนรุ่นใหม่ และนักการเมืองเดิมผสมผสานกัน เพื่อมีแนวคิดเป็นตัวนำ ไม่ใช่การเมืองนำประเทศ ยืนยันว่า ในช่วงนี้ ไม่ได้พบปะนักการเมืองที่เคยคุ้นเคยกัน เพราะทำงานในหน้าที่จนไม่มีเวลา ส่วนตัวเมื่อเข้ามาทำงานในหน้าที่ตรงนี้ ก็ถือว่าเป็นบุคคลสาธารณะ ดังนั้น ก็จะมุ่งทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ให้ประเทศมุ่งไปข้างหน้า

พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยพูดว่าจะไปตั้งพรรคการเมือง แต่เคยบอกว่า จะสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ทำงานต่อ หากพลเอกประยุทธ์ ตัดสินใจทำงานต่อ ส่วนพรรคไหนจะทำกิจกรรมอะไร ก็ไม่ทราบ เป็นเรื่องของแต่ละพรรค

นายสมคิดยังย้ำว่า ทุกกลุ่มการเมืองรู้จักกัน เช่นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ส่วนตัวรู้จักเป็นคนดี ในขณะที่พรรคเพื่อไทย ก็มีคนที่ดีจำนวนมาก ดังนั้น ต้องคิดว่าในอนาคตหากทำงานร่วมกันจะเป็นอย่างไร ซึ่งจำเป็นต้องก้าวข้ามความขัดแย้งทั้งหมด โดยเอาบ้านเมืองเป็นตัวตั้ง แล้วทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี

ขณะที่การทำงานด้านการเมืองของตนเอง ก็เป็นเรื่องของอนาคต เพราะตอนนี้อายุ 65 ปีแล้ว

นายสมคิด ยังกล่าวติดตลก กับรายงานที่ออกมาว่ามีความเคลื่อนไหวที่บ้านริมน้ำ ของนายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำอดีต ส.ส.กลุ่ม16 ว่า ไม่รู้จักบ้าน แต่รู้จักกับนายสุชาติ

ส่วนการลงพื้นที่ ประชุม ครม. สัญจร ที่ จ.สุนินทร์ และบุรีรัมย์ ในวันที่ 7-8 พค. นี้ นายสมคิดกล่าวว่า ไปติดตามนโยบาการดำเนินแก้ปัญหาความยากจนให้กับประชาชน ซึ่งถือว่ามีความเหมาะสมที่นายกรัฐมนตรี จะไปพบกับประชาชน ส่วนจะมีการต้อนรับอย่างไร ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อีกทั้งหากพื้นที่มีปัญหา รัฐบาลก็พร้อมรับฟังความคิดเห็น

และยอมรับว่า นายเนวิน ชิดชอบ อดีตนักการเมือง รู้จักกันดี ส่วนจะดูดนายเนวิน หรือไม่ นายสมคิด เราะอย่างเดียว

ส่วนจะลงพื้นที่ภาคใต้ เช่น จ.สุราษฎร์ธานี หรือไม่ นายสมคิด ยิ้ม และพูดว่า กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็มีความสนิทสนมกันดี