บิ๊กตู่ สายหน้าไม่ขอตอบไปสระแก้ว ลั่นลงพื้นที่เพื่อพบประชาชน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือMOU การเชื่อมโยงข้าว กข.43 และผลิตภัณฑ์น้ำนมข้าว ว่า การเดินทางลงพื้นที่ต่างจังหวัดและการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) นั้น ย้ำว่าต้องการไปทุกจังหวัด ใครรับตรงไหนก็ไปตรงนั้น เพื่อพบประชาชนให้มากที่สุด ไม่ได้ไปเจอเพราะมีคนจัดให้ และไม่ต้องการให้เป็นที่ครหาใดๆ ทั้งสิ้น ยืนยันจะไม่ทำเรื่องการเมือง แต่ต้องทำเรื่องการบ้านให้สำเร็จก่อนการเลือกตั้ง เพื่อให้สิ่งที่เราทำเกิดขึ้นต่อในวันหน้า ไม่กลับมาเป็นแบบเดิม ซึ่งทุกอย่างต้องแก้ที่ประชาชนไม่ใช่แค่รัฐบาลหรือข้าราชการ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ฝากทุกคนช่วยคิดด้วย ว่าที่ตนพูดมา 3-4 ปีแล้ว หากพูดถูกมากกว่าผิดก็ช่วยตนด้วย โดยเฉพาะภาคเอกชนที่เสียสละอาจกำไรน้อยลงแต่ทำประชาชนลืมตาอ้าปากได้จะถือเป็นกุศล นอกจากนี้ขอทุกคนช่วยเป็นพลังเงียบที่ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อทำให้บ้านเมืองสงบปลอดภัย ซึ่งจะเกิดได้ไม่ใช่เพราะตน คสช. และมาตรา 44 แต่อยู่ที่ใจคนไทยทุกคนในการทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ตนก็ทำหน้าที่ได้เท่านี้ ไม่มีใครทำได้มากกว่านี้ แต่ยืนยันว่าตนมีความตั้งใจและเจตนาดี และขอให้เรื่องการเมืองก็ปล่อยให้เป็นเรื่องการเมือง แต่การเมืองนั้นมีไว้สำหรับสร้างบ้านเมือง ไม่ได้มีไว้ทำลายกัน สร้างความเกลียดชังกันไปเรื่อยๆ แล้วจะอยู่ได้อย่างไรในวันหน้า เป็นสิ่งที่ตนกังวล

"ขออวยพรให้ทุกธุรกิจ และเอกชนที่ทำดีเพื่อแผ่นดินและคนจน ให้เจริญร่ำรวยต่อไปเรื่อยๆ แต่ถ้าใครรังแกประชาชน เอาเปรียบ ก็แล้วแต่ ลงโทษกันเอง พระมี ผมไม่กล้าไปว่าใครเพราะศัตรูมีเยอะอยู่แล้ว ทั้งนี้พระสยามเทวาธิราชได้ทรงดูแลประเทศไทยมานานแล้ว กว่า 200 ปี ท่านก็เหนื่อย จึงขอให้ท่านพักบ้างไม่ใช่อะไรก็ขอท่านให้เรียบร้อย ซึ่งขอได้ให้เป็นกำลังใจให้เรา แต่ให้ท่านช่วยหมดก็ไม่ไหวเหมือนกัน จึงขอให้พระบารมีอันมากล้นของสถาบันพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 รัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระราชินีนาถ ได้ปกป้องทุกคน ซึ่งเราต้องปฏิรูปประเทศในสมัยเราให้ได้ ตราบที่มีชีวิตอยู่ ถ้าเราไม่ช่วยกันไม่มีรัฐบาลไหนทำได้ ทุกรัฐบาลทั้งชาตินี้และชาติหน้าถ้าเราไม่ช่วยกันทำเอง"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

อย่างไรก็ตามพลเอกประยุทธ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชน เกี่ยวกับความชัดเจนการลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ในวันที่ 18 พฤษภาคม โดยเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว พลเอกประยุทธ์ ได้เดินเชิดหน้าโดยไม่หันมามอง พร้อมส่ายศีรษะด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย ก่อนโบกมือปฏิเสธไม่ตอบคำถาม ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯจะใช้พลังเงียบกับสื่ออย่างนั้นหรือ พลเอกประยุทธ์ ก็ไม่ได้ตอบคำถามของสื่อมวลชนก่อนจะเดินขึ้นไปยังตึกไทยคู่ฟ้าทันที

ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า สำหรับกำหนดการเปิดด่านผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้วนั้น อยู่ระหว่างการหารือของเจ้าหน้าที่ทั้งไทยและกัมพูชา แต่ก็ต้องรอความชัดเจนของทั้งสองฝ่าย ซึ่งในส่วนของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เกี่ยวอะไรด้วย และหากจะมีการเชิญอย่างเป็นทางการ ผู้นำทั้งสองประเทศต้องมีความพร้อมและว่างจากภารกิจ แต่เท่าที่ทราบสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ติดภารกิจด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับภารกิจของนายกรัฐมนตรีที่มีการวางไว้ประจำเดือนระบุไว้ว่าจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ(ครม.สัญจร) 1 ครั้ง และการลงพื้นที่ 1 ครั้ง ซึ่งในเดือน พฤษภาคมนี้ก็เพิ่งจะผ่านการประชุม ครม.ไป ส่วนการลงพื้นที่ในเดือนนี้มีการกำหนดไว้คร่าวๆในวันที่ 23 พฤษภาคม นี้ แต่ยังไม่ได้ระบุว่าเป็นจังหวัดใด รวมถึงสถานที่ในการประชุม ครม.สัญจรของเดือนมิถุนายนด้วย

อย่างไรก็ตามสำหรับกระแสข่าวการลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อหวังพบปะกับนักการเมืองในพื้นที่นั้นก็มโนกันไปเอง ยังไม่มีอะไรทั้งสิ้น ตามข้อเท็จจริงพล.อ.ประยุทธ์ต้องการลงพื้นที่ทั้ง 77 จังหวัด เพื่อรับฟังความคิดเห็นและแก้ไขปัญหาของประชาชน จึงได้พยายามที่จะกระจายลงพื้นที่ให้ได้ครบทุกภาคแม้จะไม่ได้ไปทุกจังหวัดก็ตาม เพราะเป็นเรื่องลำบาก เรื่องการเมืองก็เป็นเรื่องของการเมือง ไม่เกี่ยวกับพล.อ.ประยุทธ์ วันนี้ไปคิดไปมโนกันเอง เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และนายกรัฐมนตรีเองก็ไม่ต้องการที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง

รายงานข่าวจากทำเนียบ เปิดเผยด้วยว่า เดิมทีทางกระทรวงมหาดไทยและจังหวัดสระแก้ว ได้หารือเตรียมการเพื่อให้นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ดังกล่าวจริง เนื่องจากเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และพล.อ.ประยุทธ์ไม่อยากตกเป็นเป้าในขณะนี้ โดยเฉพาะเรื่องของพลังดูด จึงได้ขอให้เลื่อนกำหนดการออกไปก่อน