นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ แนะรัฐบาลต้องปรับพฤติกรรม ถ้าไม่อยากทำให้ทุกเรื่องถูกโยงการเมือง
วันนี้(13 พ.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ออกมาตัดพ้อ ถูกโยงทุกเรื่องเป็นการเมือง โดยลงพื้นที่หวังดูดอดีต ส.ส. ว่า การจะถูกโยงเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการกระทำของนายกฯ และคนในรัฐบาลเองมากกว่า อยากให้นายกฯ ยอมรับความจริงว่า นับตั้งแต่นายกฯ ประกาศตัวเป็นนักการเมืองที่มาจากทหารเมื่อต้นปีที่ผ่านมา การแสดงออกของนายกฯ และคนในรัฐบาลก็มีนัยยะทางการเมืองมาโดยตลอด มีทั้งการนัดพบกลุ่มอดีต ส.ส. ที่ทำเนียบรัฐบาล และตามสถานที่ต่างๆ หลังจากนั้นก็มีการปูนบำเน็จแต่งตั้งให้มีตำแหน่งแห่งหนชัดเจนในรัฐบาล และหน่วยงานที่รัฐบาลและ คสช. สั่งได้ นอกจากนั้นก็มีกระแสข่าวว่าคนในรัฐบาลกำลังรวบรวมอดีต ส.ส. เตรียมจัดตั้งพรรคการเมืองเพื่อหนุนนายกฯ ให้กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งหลังการเลือกตั้ง
การกระทำที่เกิดขึ้นหลากหลายเหตุการณ์จึงยากที่จะปฏิเสธว่าไม่โยงการเมือง ถ้านายกฯ ไม่อยากให้คนมองว่า การกระทำของท่านนายกฯ และคนในรัฐบาลไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง ท่านนายกฯ ก็ต้องบอกตัวเอง และคนในรัฐบาลให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสียใหม่ อย่าทำอะไรให้ถูกมองได้ว่า เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง ท่านนายกฯ และคนในรัฐบาลต้องลงมือปฏิบัติทำให้เห็นชัดๆ ว่า ทำเรื่องการบ้านมากกว่าเรื่องการเมือง
นายองอาจกล่าวต่อไปว่า เรื่องการบ้านที่ประชาชนอยากเห็นท่านนายกฯ ทำให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ในการแก้ปัญหายังมีอีกหลายเรื่องดังนี้
1.ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของชาวบ้านที่ยังอยู่ในสภาพรายได้ไม่พอกับรายจ่าย ขณะนี้ใกล้จะถึงเวลาเปิดเทอมยิ่งทำให้เห็นชัดเจนว่า พ่อแม่ต้องกู้หนี้ยืมสิน ขณะที่บางคนก็ต้องเอาของไปจำนำที่โรงรับจำนำเพื่อเตรียมความพร้อมให้ลูกก่อนเปิดเรียน
2.ปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ ทั้งยางพารา และปาล์ม ก็ยังเป็นปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ชัดเจน
3.ปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะคนในเมืองหลวง และเมืองใหญ่ทั่วประเทศ
ถ้าท่านนายกฯ ตั้งใจมุ่งเคลื่อนไหวในการแก้ไขปัญหาของชาวบ้านอย่างจริงจัง ผู้คนก็จะมองเห็นว่าอยากทำเรื่องการบ้านมากกว่าเรื่องการเมืองได้เอง แต่ถ้าท่าน และคนในรัฐบาลไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ยังทำการเคลื่อนไหวที่มีนัยยะทางการเมือง ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ว่าจะถูกโยงเป็นการเมือง ซึ่งก็ไม่ต้องไปตัดพ้อต่อว่าใคร เพราะท่านทำตัวเองทั้งนั้น
ขณะนี้ท่านนายกฯ มีเวลาอีกเกือบหนึ่งปีกว่าจะมีเลือกตั้ง ควรเอาเวลาที่เหลืออยู่มาทำการบ้านแก้ปัญหาชาวบ้านให้เห็นเป็นรูปธรรมมากกว่าที่จะเอาเวลาไปสาละวนอยู่กับกลเกมทางการเมืองเหมือนอย่างที่ท่านและคนในรัฐบาลทำมาตั้งแต่ต้นปี ซึ่งไม่มีประโยชน์กับชาวบ้านแต่อย่างใด