รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ยันดำเนินคดี "สันธนะ" ไม่ได้กลั่นแกล้ง รองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองาม ระบุขั้นตอนการถอดยศอดีตผู้กำกับการสันติบาล สามารถทำได้โดยง่าย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยความคืบหน้า การดำเนินคดีกรรโชกทรัพย์ ผู้ค้าตลาดใหม่ดอนเมือง กับ พ.ต.ท. สันธนะ ประยูรรัตน์ ที่ปรึกษาประธานบริษัทพัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง ว่า คดีดังกล่าวใกล้จะสิ้นสุด
และยืนยันไม่ได้มีการกลั่นแกล้ง หรือ เลือกปฏิบัติ หรือ มีปัญหาขัดแย้งส่วนตัวกับ พ.ต.ท. สันธนะ แม้ตนจะมีชื่อเป็น 1 ใน 3 นายพลตำรวจที่ถูกกล่าวอ้าง แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมา เคยจับโต๊ดเถื่อนในสนามม้า ทำให้อาจมีคนไม่พอใจ
สำหรับคดีตลาดใหม่ดอนเมือง ยืนยันว่าจะต้องดำเนินคดีกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ภายในกรอบเวลา รวมถึงไม่ได้มองว่า พ.ต.ท. สันธนะ เป็นผู้มีอิทธิพล หรือ มาเฟีย แต่เป็นการกระทำความผิดเฉพาะกลุ่มบุคคลเท่านั้น โดยตนพร้อมให้ตรวจสอบการปฏิบัติงานในทุกกรณี
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเสนอถอดยศ พ.ต.ท. สันธนะ ว่า ตนไม่ขอแสดงความเห็น แต่การถอดยศไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเคยเกิดขึ้นหลายครั้ง และมีระเบียบราชการชัดเจนชัดเจน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อดำเนินการเรื่องนี้
ขณะที่ พล.ต.ต. พลพิพัฒน์ สมบูรณ์สุข อดีตรองผู้บังคับการ กองคดีอาญา สำนักงานกฎหมายและคดี เพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 33 ของ พ.ต.ท.สันธนะ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความไม่เห็นด้วย กรณีการจับกุม พ.ต.ท.สันธนะ โดยระบุ เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ และ เป็นการกลั่นแกล้ง
ทั้งนี้ พล.ต.ต. พลพิพัฒน์ ได้เรียกร้องให้มีการปฏิรูปงานสอบสวน เนื่องจากเห็นว่า มีการใช้ข้อกฎหมายเป็นเครื่องมือในกลั่นแกล้งดำเนินคดี ซึ่งกรณีของ พ.ต.ท.สันธนะ นั้นเป็นเรื่องของความขัดแย้งส่วนตัว แต่กลับมีการยัดข้อหาถึง 45 คดี
พล.ต.ต. พลพิพัฒน์ ยังทิ้งท้ายว่า “ตำรวจต่างกับทหาร ตรงที่ฆ่าพี่ ฆ่าน้อง ขายเพื่อน ตำรวจทำชั่วบ้างเลวบ้าง พอเป็นตำรวจระดับสูงฟอกขาวทันที เป็นนายตำรวจตัวอย่าง และบุคคลที่มีเกียรติไปในพริบตา