svasdssvasds

ภาคเอกชน ค้านภาษีที่ดิน อ้างกระทบลงทุน บั่นทอนอำนาจซื้อ เสนอให้เอกชนเข้าไปร่วมพิจารณกฎหมาย

ภาคเอกชน ค้านภาษีที่ดิน อ้างกระทบลงทุน บั่นทอนอำนาจซื้อ เสนอให้เอกชนเข้าไปร่วมพิจารณกฎหมาย

ตัวแทนสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ยื่นหนังสือร้อง สนช. คัดค้านร่าง พ.ร.บ. จัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คาดเป็นภาระกับผู้ถูกจัดเก็บและอาจส่งผลเสียต่อการลงทุน

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้รับมอบหนังสือจากตัวแทนสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ที่ยื่นข้อเสนอและความคิดเห็นต่อร่างพ.ร.บ.ภาษีและสิ่งปลูกสร้าง ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสนช. โดยมีเนื้อหาดังกล่าว ระบุว่า ร่าง พ.ร.บ.ยังขาดความชัดเจนและปัญหาในการตีความ เมื่อนำไปปฏิบัติในแต่ละพื้นที่ ในแต่ละสาขาธุรกิจอาจมีลักษณะไม่เหมือนกัน ก่อให้เกิดการใช้ดุลยพินิจของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย ประกอบกับหลักการจัดเก็บภาษีที่ดีจะต้องมีความเหมาะสมและเป็นที่ยอมรับ จากภาคประชาชนและภาคธุรกิจตลอดจนสามารถนำปฏิบัติได้โดยไม่เป็นภาระต่อผู้ถูกจัดเก็บมากเกินไป และการจัดเก็บภาษีที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกกลุ่มทั่วประเทศ ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนที่เกี่ยวข้องได้แสดงความคิดเห็นตามหลักในรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 77 ดังนั้น การกำหนดอัตราภาษี ควรมีความชัดเจนและแน่นอน โดยกำหนดเป็นอัตราคงที่อัตราเดียว

ภาคเอกชน ค้านภาษีที่ดิน อ้างกระทบลงทุน บั่นทอนอำนาจซื้อ เสนอให้เอกชนเข้าไปร่วมพิจารณกฎหมาย

รวมถึงการกำหนดอัตราภาษีเป็นเพดานสูงโดยภาครัฐจะประกาศใช้อัตราเรียกเก็บจริงในอนาคตนั้น จะส่งผลเสียต่อการลงทุน เนื่องจากทำให้ไม่เกิดความไม่แน่นอนและไม่สามารถวางแผนลงทุนได้ และ การเก็บภาษีในครั้งนี้ ในระยะสั้นเป็นการเพิ่มภาระทางตรงให้กับผู้เสียภาษี โดยส่งผลต่อผู้เสียภาษีทั้งประชาชนผู้อยู่อาศัยและผู้ครอบครองที่ดิน ตลอดจนธุรกิจเอสเอ็มอี และธุรกิจขนาดใหญ่ โดยคาดว่าประชาชนจะมีภาระภาษีจ่ายทั้งประเทศอยู่ในวงเงินรวม 50,000-100,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นการบั่นทอนอำนาจซื้อของปภาคประชาชนและธุรกิจ และทำให้ภาคเอกชนขาดความมั่นใจต่อการลงทุนในอนาคต ดังนั้นจึงขอเสนอให้แต่งตั้งคณะทำงานโดยมีผู้แทนจากภาคเอกชนเข้าร่วมการออกกฎหมายดังกล่าว

related