svasdssvasds

"นายกฯ" สั่งทุกหน่วยช่วยประชาชน ย้ำ! นโยบายไหนดีพร้อมทำ ไม่ดีพร้อมแก้ไข

"นายกฯ" สั่งทุกหน่วยช่วยประชาชน ย้ำ! นโยบายไหนดีพร้อมทำ ไม่ดีพร้อมแก้ไข

นายกฯ สั่งทุกหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนมากขึ้น พร้อมชี้แจงสร้างการรับรู้ให้ทันยุค 4.0 ย้ำนโยบายไหนดีก็พร้อมทำ ส่วนที่ไม่ดีพร้อมแก้ไข ขออย่านำไปบิดเบือน

วันนี้( 28 พ.ค.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงโครงการไทยนิยมยั่งยืนว่า มีหลายกระทรวงที่จะต้องลงไปดำเนินการ ทั้งบัตรผู้มีรายได้น้อย โครงการสร้างความเข้มแข็งด้านการเกษตร เพิ่มขีดความสามารถให้กับประชาชนและเกษตรกร ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน การบริการ ซึ่งจะเห็นว่าได้ลงไปดำเนินการในทุกหมู่บ้าน ขณะที่กิจกรรมต่างๆ ส่วนหนึ่งจะถึงมือประชาชนโดยตรงในกลุ่มต่างๆ ทั้งเกษตร งานฝีมือ วัฒนธรรมและท่องเที่ยว แต่บางส่วนต้องลงไปในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน เช่นการสร้างถนน คลองระบายน้ำ ขุดลอกคูคลองที่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือ มีการจัดซื้อจัดจ้าง หากจะไปพูดว่าเหตุใดงบประมาณที่ลงไปเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการรับเหมา ซึ่งชาวบ้านดำเนินการเองไม่ได้อยู่แล้ว จึงต้องหาคนมาดำเนินการและต้องดูว่ามีการทุจริตกันหรือไม่ หากพูดว่าแย่ไปทั้งหมดก็ไม่เป็นธรรม เพราะรัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ ไม่ได้ทำตามคะแนนเสียงหรือคะแนนนิยมของใคร หากทำแบบนั้นจะง่ายกว่านี้มาก โดยลงพื้นที่ที่สนับสนุนรัฐบาลแต่พื้นที่อื่นไม่ได้ ดังนั้นพื้นที่ใดที่ไม่สนับสุนนยิ่งต้องดูแลเพราะแสดงให้เห็นว่าประชาชนยังไม่เข้าใจ และยืนยันว่าส่วนตัวเกลียดประชาชนของตนเองไม่ได้

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า วันนี้โครงการลดความยากจนในจังหวัดที่ยากจนระดับท้ายๆ ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดหนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ และจังหวัดอื่นๆ เริ่มมีความก้าวหน้าตามลำดับ ที่สำคัญคือการพัฒนาในเชิงโครงสร้างทั้งเรื่องการค้าขายออนไลน์ สินค้าทางการเกษตร การท่องเที่ยวชุมชนที่จะช่วยเสริมงานและรายได้มากขึ้น ยกเว้นคนที่ยังไม่เข้ามาอยู่ในวงจรดังกล่าวจึงยังไม่ได้อะไร ดังนั้นจึงต้องสร้างความเข้าใจและขยายไปเรื่อยๆ เพราะการทำงานเพื่อคนส่วนใหญ่ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เนื่องจากไม่ได้อยู่ในพื้นที่เดียวกัน และต้องขึ้นอยู่กับความสนใจของประชาชนด้วย และส่วนตัวเห็นใจประชาชนทุกคนที่ต้องทำงานหาเงินให้ได้มากที่สุด เพราะค่าครองชีพที่อาจสูงขึ้นแต่รัฐบาลก็ต้องควบคุมให้ได้มากที่สุด

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนตัวได้เน้นย้ำในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ รัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายความมั่นคง เศรษฐกิจและสังคม ที่ขณะนี้เป็นโลก 4.0 โลกแห่งโซเชียลมีเดีย จึงต้องสร้างการรับรู้กับประชาชนในสิ่งที่ถูกต้อง ชี้แจงได้ทันเวลา สิ่งใดที่ประชาชนร้องเรียนมาต้องนำเข้ามาสู่การพิจารณาทั้งสิ้นซึ่งทั้งหมดคือการมีส่วนร่วมของประชาชนในทางพฤตินัยที่ไม่สนใจไม่ได้ ยกเว้นเป็นการทำเพื่อบิดเบือน การให้ร้ายผิดกฏหมายก็ต้องดำเนินการตามกฏหมาย การแก้โชเชียลมีเดียในส่วนที่ผิดกฏหมาย ซึ่งมีกฏหมายอยู่แล้ว ส่วนตัวไม่ได้มุ่งหวังที่จะทำร้ายใครหรือทำร้ายประชาชน แต่ประชาชนจะต้องไม่ทำร้ายประชาชนด้วยกันเองด้วยการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เพราะจะเกิดความสับสนอลหม่าน เสถียรภาพจะไม่เกิดขึ้น การค้าและการลงทุนจะมีปัญหาทั้งหมด

นอกจากนี้ยังย้ำทุกหน่วยงานและทุกกระทรวงฯ หลังจากที่ได้รับทราบปัญหาของประชาชนและอุปสรรคต่างๆ จากศูนย์ดำรงธรรม โดยขอให้ลงไปพบปะประชาชนให้มากยิ่งขึ้น ไปฟังข้าราชการพูดและไปพบปะประชาชนว่าทั้งหมดนั้นจริงหรือไม่ อะไรที่เป็นปัญหาอุปสรรคที่ผ่านมา ได้มีโครงการต่างๆลงไปมากมายหลาย 100 โครงการ ที่บางโครงการยังติดขัดอยู่ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคเล็กน้อย ความไม่เข้าใจ กฏหมายบางข้อ ซึ่งมีความเข้าใจไม่ตรงกัน จึงต้องแก้อุปสรรคเหล่านี้ให้ได้เพื่อให้เกิดผลประโยชน์

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการเปรียบเทียบการทำงานของรัฐบาลนี้และรัฐบาลที่ผ่านมาว่า หลายโครงการต้องการแก้ไขปัญหาเช่นเดียวกับรัฐบาลอื่นๆ แต่รูปแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งทุกรัฐบาลต้องคำนึงถึงงบประมาณที่มีอยู่ เพราะในอนาคตประเทศล้มเหลวด้านการเงินการคลัง โดยธนาคารโลกได้ตั้งข้อสังเกตในเรื่องเหล่านี้ไว้ หลังจากนี้ควรศึกษาประเทศอื่นๆ ที่อาจจะร่ำรวยกว่าแต่กลับทำไม่ได้เท่ากับประเทศไทย ยืนยันว่าโครงการอะไรดีจะทำทั้งหมดอย่าวิจารณ์ว่าโครงการรัฐบาลเหมือนกับใคร ส่วนเรื่องที่มีปัญหาต้องแก้ไขให้มั่นคงยั่งยืนและไม่ได้ทำตามกระแส จึงขออย่าให้ใครมาบิดเบือน และต้องทำนโยบายที่ดีให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้ล้มเหลวในอนาคต

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า โครงการจำนำข้าว โครงการรักษาพยาบาล และกองทุนหมู่บ้าน ที่ทุกคนชื่นชมก็มีปัญหา ซึ่งทุกโครงการมีทั้งดีและเสีย เช่นเดียวกับรัฐบาลนี้ ทำอะไรดีก็ดีไปและอะไรเสียก็ต้องแก้ไข และขจัดอุปสรรคให้ได้ ซึ่งต้องคิดให้ละเอียด

related