svasdssvasds

มติเอกฉันท์ สนช. รับหลักการรวมกฎหมายยาเสพติด พร้อมให้อำนาจ ป.ป.ส.-รมว. สธ. กำหนดพื้นที่ใช้ใบกระท่อม

มติเอกฉันท์ สนช. รับหลักการรวมกฎหมายยาเสพติด พร้อมให้อำนาจ ป.ป.ส.-รมว. สธ. กำหนดพื้นที่ใช้ใบกระท่อม

สนช.มีมติเอกฉันท์รับหลักการวาระแรก ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยเป็นการรวมกฎหมายยาเสพติดที่มีหลายฉบับมาไว้ในฉบับเดียวกัน พร้อมกำหนดระบบอนุญาตเพื่อให้การควบคุม การปลูก และใช้ใบกระท่อม

ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.พิจารณาร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด และร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. รวม 3 ฉบับ

โดย พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า เนื่องจากปัจจุบันมีกฎหมายกี่ยวกับการป้องกัน ปราบปราม และควบคุมยาเสพติด รวมถึงการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดกระจายอยู่ในกฏหมายหลายฉบับและการดำเนินการตามกฎหมายแต่ละฉบับเป็นหน้าที่และอำนาจของหลายองค์กร ทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่มีความสอดคล้องกัน อีกทั้งบทบัญญัติของกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดบางประการไม่เหมาะสมไม่สอดคล้องกับสถานการณ์การปัจจุบัน รวมกฎหมายดังกล่าวจัดทำเป็นประมวลกฎหมายยาเสพติดเพื่อประโยชน์ในการอ้างอิงและใช้กฎหมายที่จะรวมอยู่ในฉบับเดียวกันอย่างเป็นระบบ มีการกำหนดให้มีระบบอนุญาตเพื่อให้การควบคุมและการใช้ยาเสพติดในทางการแพทย์ ทางวิทยาศาสตร์ และทางอุตสาหกรรมมีประสิทธิภาพ และมุ่งเน้นการป้องกันการแพร่กระจายยาเสพติดและการใช้ยาเสพติดในทางที่ไม่ถูกต้อง กำหนดให้มีระบบคณะกรรมการ ที่ประกอบด้วยบุคลากรที่มีความหลากหลายจากทั้งภาครัฐและเอกชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณากำหนดนโยบายต่าง ๆ เพื่อให้การป้องกัน ปราบปรามและความคุมยาเสพติด รวมถึงการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสภาพเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพทั้งนี้ให้ยกเลิกกฎหมายยาเสพติด 21 ฉบับเพื่อรองรับการบังคับใช้กฎหมายเหล่านี้

มติเอกฉันท์ สนช. รับหลักการรวมกฎหมายยาเสพติด พร้อมให้อำนาจ ป.ป.ส.-รมว. สธ. กำหนดพื้นที่ใช้ใบกระท่อม

สำหรับเนื้อหาสาระของร่างกฎหมายดังกล่าวนั้น พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ได้กำหนดให้ข้าราชการของสำนักงาน ป.ป.ส.ที่ได้รับการแต่งตั้งมีสิทธิได้รับเงินเพิ่ม ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดซึ่งมีหลักการสำคัญคือ กำหนดให้มีการจัดทำนโยบายระดับชาติว่าด้วยการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปรับปรุงส่วนประกอบหน้าที่ของคณะกรรมการป.ป.ส. กำหนดให้มีคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดเพื่อรับผิดชอบในการกำหนดมาตรการ เกี่ยวกับการอนุญาตและการควบคุมยาเสพติดให้โทษ วัตถุออกฤทธิ์ และสารระเหย กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดชื่อและประเภทของยาเสพติดให้โทษ กำหนดให้นำมาตรการการปกครองมาใช้ในการลงโทษทางอาญา ผู้รับอนุญาตที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ร่างกฎหมายนี้กำหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ส. มีอำนาจประกาศกำหนดพื้นที่ให้สามารถผลิตเสพหรือครอบครองยาเสพติดบางชนิด เพื่อศึกษาวิจัย หรือการลดอันตรายจากยาเสพติดได้ ให้คณะกรรมการป.ป.ส.มีอำนาจออกประกาศ กำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในสถานประกอบการ และกำหนดประเภทสถานประกอบการที่อยู่ภายใต้มาตรการดังกล่าว ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีอำนาจประกาศกำหนดยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ที่สามารถเสพ เพื่อการรักษาโรค หรือเพื่อการศึกษาวิจัยได้ และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการป.ป.ส. มีอำนาจประกาศให้ท้องที่ใดเสพใบกระท่อมได้ตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนด โดยไม่เป็นความผิด ปรับปรุงองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ในกรณีผู้ต้องหาหรือจำเลยหลบหนี หรือถึงแก่ความตาย ปรับปรุงการจัดตั้งกองทุนป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้ประโยชน์ในการป้องกันปราบปราม ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด กำหนดบทสันนิฐานการมีไว้ครอบครองเพื่อเสพในปริมาณเล็กน้อย ให้สามารถสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษา โดยไม่ดำเนินคดี

มติเอกฉันท์ สนช. รับหลักการรวมกฎหมายยาเสพติด พร้อมให้อำนาจ ป.ป.ส.-รมว. สธ. กำหนดพื้นที่ใช้ใบกระท่อม

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังกำหนดให้มีคณะกรรมการบำบัดรักษา ฟื้นฟูยาเสพติด มีหน้าที่และอำนาจในการกำหนดเป้าหมายและนโยบายเกี่ยวกับการบำบัดรักษา และฟื้นฟูสภาพทางสังคมแก่ผู้เสพยาเสพติด รวมถึงมีอำนาจในการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในส่วนที่เกี่ยวข้อง กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขกรณีผู้เสพสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษา กำหนดหน้าที่และอำนาจของเจ้าพนักงานป.ป.ส. และพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจในการดูแลผู้เสพ กำหนดให้มีศูนย์คัดกรองเพื่อทำหน้าที่คัดกรองประเมินความรุนแรงของยาเสพติด รวมถึงส่งต่อผู้เข้ารับการบำบัดรักษา ไปยังสถานบำบัดรักษาที่เหมาะสม รวมทั้งปรับปรุงบทกำหนดโทษคดียาเสพติดให้มีความเหมาะสมในสัดส่วนของความร้ายแรงของการกระทำผิด และสอดคล้องต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้โทษทางอาญาเฉพาะกรณีที่มีความผิดร้ายแรง ปรับปรุงการบังคับโทษปรับ ที่ผู้ต้องโทษปรับไม่ชำระค่าปรับ ให้เป็นไปตามคดีที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายอาญา

มติเอกฉันท์ สนช. รับหลักการรวมกฎหมายยาเสพติด พร้อมให้อำนาจ ป.ป.ส.-รมว. สธ. กำหนดพื้นที่ใช้ใบกระท่อม

ขณะที่ สมาชิก สนช. อาทิ นายสมชาย แสวงการ สนช. กล่าวว่ารัฐบาลทิศทางมาถูกต้อง แต่อยากให้แยกเรื่องกัญชาออกมาดำเนินการก่อน เพราะได้มีการศึกษาในระดับหนึ่งแล้ว

ขณะที่พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร สนช. กล่าวว่าปัจจุบันผู้ที่กระทำผิดยาเสพติดไม่ได้เกรงกลัวการติดคุก เพราะแม้ติดคุกก็ยังมีเงินให้ครอบครัวได้อยู่ดีมีสุข จึงอยากให้มีมาตรการในการยึดทรัพย์ที่รวดเร็ว โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือเพื่อความรวดเร็วในการดำเนินคดี

มติเอกฉันท์ สนช. รับหลักการรวมกฎหมายยาเสพติด พร้อมให้อำนาจ ป.ป.ส.-รมว. สธ. กำหนดพื้นที่ใช้ใบกระท่อม

จากนั้นที่ประชุมมีมติเอกฉันท์รับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. และร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดไว้พิจารณาด้วยคะแนนเสียง 194 ต่อ 0 งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง และตั้งกรรมาธิการวิสามัญ 28 คนพิจารณาแปรญัตติภายใน 15 วัน กำหนดระยะเวลาการดำเนินงาน 90 วัน และรับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่..) พ.ศ.ไว้พิจารณาด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ 190 ต่อ 0 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง โดยมอบหมายให้ใช้กรรมาธิการชุดเดียวกันแปรญัตติภายใน 15 วัน มีระยะเวลาการดำเนินงาน 90 วันเช่นกัน

มติเอกฉันท์ สนช. รับหลักการรวมกฎหมายยาเสพติด พร้อมให้อำนาจ ป.ป.ส.-รมว. สธ. กำหนดพื้นที่ใช้ใบกระท่อม

ทั้งนี้ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า ร่างกฎหมายนี้มีสาระที่เปลี่ยนไปคือ ให้อำนาจผู้พิพากษาตัดสินคดีกรณีผู้เสพหรือผู้ครอบครอง ว่าเป็นความผิดขั้นร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง แทนการนับเม็ดยาเหมือนในอดีต ที่หากมีปริมาณครอบครองเกินกำหนดจะกลายเป็นผู้ค้าทันที โดยที่อาจจะเป็นเพียงผู้เสพ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ผู้ที่ถูกตัดสินจำคุกมีปริมาณลดลง อีกทั้งยังไม่กำหนดให้กัญชา และกระท่อมเป็นยาเสพติดประเภท 5 ไว้ใน พ.ร.บ.โดยจะให้ออกเป็นกฎกระทรวงแทน เพื่อสะดวกในการปรับแก้ กรณีที่นำกระท่อมและกัญชามาใช้ทางการแพทย์ ซึ่งได้มีผลวิจัยของต่างประเทศ อาทิ แคนาดา ที่ปลูกกัญชาส่งออกใช้ทางการแพทย์ แต่ทั้งนี้จะต้องอยู่ภายใต้คำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารสุข โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ป.ป.ส.

related