svasdssvasds

ไทม์เปิดใจพลเอกประยุทธ์ ไทยในจุดเปลี่ยนผ่าน

ไทม์เปิดใจพลเอกประยุทธ์ ไทยในจุดเปลี่ยนผ่าน

นิตยสารไทม์ สัมภาษณ์พิเศษพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา และวันนี้ ได้เปิดเผยภาพหน้าปกไทม์ ฉบับวันที่ 2 กรกฎาคม ปี 2018 เป็นรูปนายกรัฐมนตรีไทย พร้อมชื่อบทความว่า “ประชาธิปไตย หรือเผด็จการ ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเลือกเส้นทางไหน”

ไทม์รายงานว่า เมื่อกว่า 4 ปีก่อน พลเอกประยุทธ์ อายุ 64 ปี ได้กระทำการรัฐประหาร ภายหลังวิกฤตประท้งยาวนาน 6 เดือน เพื่อขับไล่อดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร...การประท้วงครั้งนั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 28 คน บาดเจ็บกว่า 700 คน โดยพลเอกประยุทธ์เข้าควบคุมประเทศในวันที่ 22 พฤษภาคม ปี 2014 ถือเป็นผู้นำที่มาจากการยึดอำนาจคนที่ 12 ของไทย นับแต่ไทยเปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในปี 1932

ไทม์เปิดใจพลเอกประยุทธ์ ไทยในจุดเปลี่ยนผ่าน

เรามาถอดบทสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งของนิตยสารไทม์

นิตยสารไทม์: คุณมีอาชีพในกองทัพมายาวนาน วันนี้ มาเล่นการเมือง คุณจะรับมือการเปลี่ยนผ่านยังไง

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา: ก่อนที่ผมจะมาบริหารรัฐบาล ผมเป็นผู้บัญชาการกองทัพ ผมพยายามศึกษาความรู้ใหม่ นอกเหนือจากการทหาร แต่กองทัพก็เป็นส่วนสำคัญต่อการพัฒนาประเทศด้วย ไม่ใช่แค่ด้านกลาโหมเท่านั้น ดังที่ระบุในรัฐธรรมนูญ หน้าที่หลักของกองทัพ ประกอบด้วยการพิทักษ์ประเทศชาติ รักษาความมั่นคงของชาติ และพัฒนาประเทศ ยกตัวอย่างเช่น กองทัพให้ความช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่รัฐบาล และหน่วยงานต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาภัยธรรมชาติ

นิตยสารไทม์: ภายใต้การนำของคุณ ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทำไมคุณคิดว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะช่วยให้ประเทศชาติ กลับมามีเสถียรภาพ และเป็นประชาธิปไตยดังเดิมได้

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา: รัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในประชาคมโลก ไม่เพียงเท่านั้น รัฐธรรมนูญฉบับนี้สนับสนุนโดยเสียงจากลงประชามติถึง 60 เปอร์เซ็นต์ และมีคนไทยเข้าร่วมใช้สิทธิกว่า 16 ล้านคน ผมเชื่อว่า รัฐธรรมนูญมีความชอบธรรมทางกฎหมาย และสาธารณชนให้การยอมรับ โดยรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เสนอแนวทางแก้ปัญหาหลายอย่าง อาทิ ส่งเสริมความร่วมมือจากภาครัฐ ต่อต้านคอรัปชัน ป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน มีกลไกทุกอย่างที่จำเป็น ผมไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งอะไรขึ้นอีก

ไทม์เปิดใจพลเอกประยุทธ์ ไทยในจุดเปลี่ยนผ่าน

นิตยสารไทม์: ผู้สนับสนุนตระกูลชินวัตรระบุว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีเป้าหมายเพื่อจำกัดเสียงของพวกเขา คุณไม่คิดว่า จะเกิดปัญหาตามมาภายหลังการเลือกตั้ง

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา: ผมคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่จะกังวลถึงเรื่องนี้ เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านยุคสมัยของไทย และประชาธิปไตยของไทย เราทำสิ่งนี้มา 80 ปีแล้ว แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ในเรื่องของความขัดแย้งที่อาจเกิดจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ผมคิดว่าประชาชนไม่ได้ให้ความสนใจอย่างจริงจังต่อกฎหมายที่แท้จริง ผมคิดว่าคุณคงไม่พบปัญหาลักษณะนี้ ในประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่ในกรณีของไทย เราอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่าน เราจำเป็นต้องอดทน และสร้างความตระหนักรู้ สร้างความเข้าใจและความร่วมมือ เพราะคุณก็รู้ดีว่า เกิดอุปสรรคได้เสมอ ระหว่างการเปลี่ยนผ่าน

แล้วในเรื่องของการละเมิดกฎหมาย มีเพียงกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง หรือสองกลุ่มเท่านั้น ที่ดึงดันจะละเมิดกฎหมาย พวกเขาพยายามใช้ประโยชน์จากกฎหมาย เพื่อสร้างความขัดแย้งในประเทศ

นิตยสารไทม์: คุณรู้สึกเสียใจไหม ที่ทำการยึดอำนาจ

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา: มันเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดในชีวิตของผม ผมใช้เวลา 6 เดือนเพื่อตัดสินใจยึดอำนาจ ไม่ใช่ว่าผมตัดสินใจจะทำเช่นนั้นล่วงหน้าแล้ว แต่ข้อเท็จจริงคือ ผมปล่อยให้เกิดความเสียหายกับประเทศชาติไปมากกว่านี้ไม่ได้ เกิดความสูญเสียขึ้นมากพอแล้ว ในช่วงที่ผมตัดสินใจ ผมพยายามเต็มที่เพื่อแก้ปัญหา ผมรับฟังพรรคการเมืองทุกพรรค ฟังความเป็นประชาชนบนสังคมออนไลน์ด้วย รวมถึงรับฟังจากเจ้าหน้าที่รัฐบาล เพื่อรวบรวมข้อมูลในทุกแง่มุม นำมาประกอบการพิจารณาของผม ที่นำไปสู่การตัดสินใจดังกล่าว

นี่คือสิ่งที่ผมอยากให้คุณเข้าใจว่า ผมมาสู่จุดนี้ได้ยังไง ส่วนตัวแล้ว ผมไม่เคยต้องการมีอำนาจด้วยวิธีการนี้ ผมไม่เคยคิดจะเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยวิธีนี้ แต่ประเทศชาติกำลังใกล้จะสูญสลาย และผมจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น

ไทม์เปิดใจพลเอกประยุทธ์ ไทยในจุดเปลี่ยนผ่าน

นิตยสารไทม์: ประชาธิปไตยในประเทศไทย จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา: เริ่มจากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เราต้องมาดูว่าอะไรที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย เพื่อจัดตั้งรูปแบบการเข้าถึงและการร่วมมือกับประชาชนที่มีศักยภาพ ผ่านกระบวนการที่เหมาะสม นอกเหนือจากเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนแล้ว กระบวนการต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่ละเมิดกฎหมาย และสิทธิของประชาชน ทั้งนี้ แม้เสรีภาพจะเป็นสิทธิตามประชาธิปไตย แต่เสรีภาพจะต้องไม่ถูกใช้ประโยชน์เพื่อละเมิดสิทธิของผู้อื่น มันมีเส้นแบ่งระหว่างสิทธิมนุษยชนและการละเมิดกฎหมาย ซึ่งนี่เป็นสิ่งสำคัญมาก เราใส่ใจเพียงคนส่วนมาก แต่ละเลยคนส่วนน้อยไม่ได้ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับประชาธิปไตยไทยในอดีต

นิตยสารไทม์: คุณจะเกษียณหลังการเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์นี้ไหม

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา: นี่เป็นเรื่องของอนาคต ผมไม่สามารถบอกสิ่งที่ผมจะทำ หรือจะไปอยู่จุดไหนได้ มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์และประชาชนด้วย ผมไม่มีอำนาจควบคุมเรื่องนี้ แต่มันจะเป็นกลไกของประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญ การเลือกตั้ง และอื่นๆ เราไม่สามารถทำนายเรื่องเหล่านี้ได้ล่วงหน้า

related