svasdssvasds

ปปช. แจ้งข้อกล่าวหา "สุเทพ" อนุมัติสร้างแฟลต - สถานีตำรวจ มิชอบ รอเข้าแจง 19 ส.ค.

ปปช. แจ้งข้อกล่าวหา  "สุเทพ" อนุมัติสร้างแฟลต - สถานีตำรวจ มิชอบ รอเข้าแจง 19 ส.ค.

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงความคืบหน้า การไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีกล่าวหานายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการอนุมัติโครงการก่อสร้างแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ 163 แห่งทั่วประเทศ และกรณีกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กรณีอนุมัติก่อสร้างสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลัง วงเงินกว่า 5,848 ล้านบาท ว่าขณะนี้ มีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ถูกกล่าวหาและผู้ที่เกี่ยวข้องที่ ป.ป.ช.เห็นว่ามีมูลเพียงพอ ให้ทราบไปแล้ว เมื่อต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา

ด้าน  นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ป.ป.ช. ได้อนุมัติให้ขยายระยะเวลาแจ้งข้อกล่าวหาออกไปได้จนถึงปลายเดือน ส.ค. คือในช่วงวันที่ 29-30 ส.ค.นี้  เนื่องจาก ผู้ถูกกล่าวหาบางรายได้ขอขยายระยะเวลาการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาออกไป โดยให้เหตุผลว่าต้องรวบรวมพยานและหลักฐานเพิ่มเติม

โดยรายงานข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช.แจ้งว่า ก่อนหน้านี้ทั้งสองคดีได้มีชื่อของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกกล่าวหาด้วย แต่ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้เคยมีมติไปก่อนหน้านี้แล้วว่าไม่แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายอภิสิทธิ์ ซึ่งทาง ป.ป.ช.ก็ได้แถลงข่าวให้สื่อมวลชนทราบไปแล้ว อย่างไรตามขณะนี้ทั้ง 2 คดี ผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาคือนายสุเทพ กับพวกรวม 17 ราย โดยผู้ถูกกล่าวหาส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่อยู่ในคณะกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลัง ซึ่งบางส่วนได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหามาเป็นลายลักษณ์อักษร และบางส่วนขอขยายเวลาในการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ส่วนนายสุเทพ ได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวมาเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว และยังได้ขอเข้าให้ถ้อยคำต่อ ป.ป.ช.ด้วยตัวเอง ในช่วงบ่ายของวันจันทร์ ที่ 19 ส.ค.ที่จะถึงนี้อีกด้วย

สำหรับคดีดังกล่าว สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการไต่สวน ซึ่งประกอบด้วยกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะ พิจารณาความคืบหน้าคดีเพื่อตรวจสอบว่าจะสามารถสรุปสำนวนเพื่อเสนอเป็นวาระการประชุมได้หรือไม่ แต่ปรากฎว่าที่ประชุมมีความเห็นว่าทั้งสองคดี คือคดีโรงพัก และแฟลตตำรวจ ยังไม่มีความสมบูรณ์เพียงพอที่จะสรุปสำนวนเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อชี้มูลความผิดได้ จึงให้คณะอนุกรรมการไปไต่สวนเพิ่มเติมและให้ตรวจสอบบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมด้วย

โดยขั้นตอนนับจากนี้ ภายหลังที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหารับทราบแล้วนั้น ผู้ถูกกล่าวหาจะได้สิทธิ์ในการเข้าชี้แจงข้อกล่าวหา พร้อมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานมาแสดงเพิมเติม จากนั้น จะมีการสรุปสำนวน ก่อนส่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาอีกครั้ง หากผลการพิจารณาพบว่ามีมูลก็จะส่งเรื่องต่อไปยังอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาต่อ โดยอาจตั้งคณะทำงานร่วมกับ ป.ป.ช. หรือยื่นเรื่องฟ้องต่อศาลได้เลย ส่วนหากว่าคณะกรรมการพิจารณาแล้วไม่พบว่ามีมูลตามข้อกล่าวหา ก็ถือว่าเรื่องนั้นตกไป

related