"อภิสิทธิ์ มองการทำไพรมารีโหวต เป็นอุปสรรค "ดูด" นักการเมือง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ต้องการนำบ้านเมืองออกจากวิกฤติ ความขัดแย้ง และเดินหน้าสนับสนนุการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม แต่สิ่งสำคัญคืออยากให้ทุกฝ่าย และทุกพรรคเคารพเจตนารมณ์ของประชาชนและรัฐธรรมนูญ แม้จะมี ส.ว. 250 คน มีส่วนเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ควรให้พรรคที่ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งเป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาล

ทั้งนี้พรรคยืนยันมีความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนกติกาอย่างไร ซึ่งหลายเรื่องหากเปิดให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้ ก็สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขกฎหมายได้ โดยไม่ต้องออกคำสั่งมาตรา 44 คลายล็อกหรือปลดล็อก โดยเฉพาะเรื่องการทำไพรมารีโหวต เพราะรูปแบบที่จะปรับแก้ไม่ใช่การทำไพรมารีโหวต และไม่ต่างจากรัฐธรรมนูญปี 2550 ดังนั้นควรพูดความจริงกับประชาชน ว่าไม่ต้องการทำไพรมารี ซึ่งส่วนตัวแม้ไม่เห็นด้วย แต่ทุกพรรคการเมืองพร้อมที่จะดำเนินการ พร้อมกันนี้ขอตั้งข้อสังเกตว่า การปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำไพรมารีโหวต เพราะผู้อำนาจเปลี่ยนบทบาทจากกรรมการมาเป็นผู้เล่น และการทำไพรมารีโหวตจะเป็นอุปสรรคต่อการ "ดูด"นักการเมือง เพราะหากไปรับปากหรือทาบทามบุคคลใด ก็ต้องผ่านกระบวนการทำไพรมารี

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นความบกพร่องของสนช. ที่เขียนกฎหมายไม่เปิดโอกาสให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)แบ่งเขตการเลือกตั้งได้โดยเร็ว เพื่อจะทำให้นักการเมืองทำกิจกรรมได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตามในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ จะเรียกประชุมทันทีที่มีการคลายล็อกทางการเมือง เพราะ 4 ปีที่ผ่านมาพรรคลงท้นที่รับฟังความเห็นจากประชาชนมาโดยตลอด และมีนโยบายที่ชัดเจนที่จะเป็นทางออกให้กับประเทศ

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่อาจจะมีรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลไปเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองว่า หากเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ คนในรัฐบาลและคสช.ที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ควรต้องลาออกตั้งแต่รัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนขึ้นบนสมมติฐานว่าผู้มีอำนาจในปัจจุบันไม่ลงมาเล่นการเมือง จึงได้เขียนบทเฉพาะกาลไม่นำบทบัญญัติที่ห้ามรัฐบาลรักษาการดำเนินกิจกรรมทางการมืองมาใช้ ดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเคารพเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่.