svasdssvasds

ประชาธิปัตย์ จ่อทำหนังสือถึง กกต. ขอจัดประชุมใหญ่ 26 ก.ย. เลือกหัวหน้าพรรค

ประชาธิปัตย์ จ่อทำหนังสือถึง กกต. ขอจัดประชุมใหญ่ 26 ก.ย. เลือกหัวหน้าพรรค

คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมทำหนังสือถึง กกต. ขอจัดประชุมใหญ่ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ พร้อให้ที่ประชุมรับรองมติพรรค

คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 35 คน ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง หารือเกี่ยวกับการแก้ไขข้อบังคับพรรค โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า วันนี้ได้หารือเรื่องนโยบาย อุดมการณ์ การตั้งสาขาพรรค ตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึง การเลือกตั้งหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายพรรคการเมืองฉบับใหม่ และให้ที่ประชุมใหญ่ของพรรคมีมติรับรอง โดยพรรคจะทำหน้าสือแจ้งไปยัง คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ภายในวันนี้ ว่าจะจัดการประชุมใหญ่ในวันพุธที่ 26 กันยายน ตามข้อกำหนดที่ต้องแจ้ง กกต. ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 5 วัน

ซึ่งเมื่อมีการประชุมแก้ไขข้อบังคับและสมาชิกรับรองข้อบังคับแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ หวังว่า ระเบียบ กกต. จะเอื้อในการเปิดรับสมาชิกใหม่ของพรรคการเมืองทำได้สะดวก นำไปสู่การจัดตั้งสาขาพรรคหรือตัวแทนพรรคได้ในหลายพื้นที่

สำหรับตัวนโยบายที่พรรคจะใช้ในข้อบังคับพรรค คือ ฉบับย่อ เพื่อให้เห็นถึงปัญหาต่างๆที่พรรคมองว่า เป็นเรื่องสำคัญในปัจจุบัน เช่น เศรษฐกิจ การศึกษา การกระจายอำนาจ การเมืองที่สุจริต ส่วนสิ่งที่พรรคจะยังไม่ทำในการประชุมใหญ่สัปดาห์หน้า คือ เลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหญ่ เพราะยังยืนยันหลักการที่จะให้ประชาชนมีส่วนร่วมผ่านกระบวนการหยั่งเสียง ซึ่งกรรมการบริหารพรรคจะออกระเบียบการหยั่งเสียงต่อไป ว่ารูปแบบจะทำอย่างไร และจะกระจายโอกาส หรือสร้างความรัดกุมในการหยั่งเสียงอย่างไร

นายอภิสิทธิ์ระบุว่า ในข้อบังคับใหม่ ไม่มีอะไรเปลี่ยนในเชิงหลักการ ส่วนข้อกำหนดผู้มีสิทธิเลือกหัวหน้าพรรค จะอยู่ในระเบียบ และการหยั่งเสียงเป็นเรื่องใหม่ จึงต้องพิจารณากรอบเวลาการรับสมาชิกเพิ่มเติมหรือคนที่มีสิทธิมีส่วนร่วมในกระบวนการหยั่งเสียง ซึ่งจะต้องยกร่างระเบียบอีกครั้ง ส่วนระยะเวลาการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคนั้น ยังตั้งเป้าให้ได้หัวหน้าพรรคภายในเดือนพฤศจิกายน

"การหยั่งเสียงเป็นเรื่องภายในที่พรรคทำกันเอง ไม่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย ดังนั้น พรรคสามารถออกระเบียบเองได้ ส่วนคุณสมบัติผู้ชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง เพราะดูแล้วไม่ยากเย็น คือต้องมี อดีต ส.ส. รับรอง 20 คน หรือ สมาชิกรับรองภาคละ 500 คน ซึ่งเป็นไปตามสากล และรายชื่อบุคคลที่อยู่ในข่าว ก็เชื่อว่า ไม่น่ามีปัญหาที่จะได้รับการรับรอง ส่วนคนที่จะลงสมัครเป็นหัวหน้าพรรคจะต้องต้องเป็น ส.ส. หรือไม่ พรรคก็ไม่ได้บังคับ แต่อยู่ที่ดุลพินิจของสมาชิก ถ้ามีคุณสมบัติเข้ามารับการหยั่งเสียงได้ก็ไม่มีปัญหา ส่วนคนนอกที่เพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกและไม่เคยดำรงตำแหน่งอะไรต้องมี อดีตส.ส. รับรอง 40 คน หรือสมาชิก 1000 คน ต่อภาค แต่บุคคลที่มีชื่อก็ไม่น่ามีปัญหาเพราะเคยดำรงตำแหน่งในพรรคทั้งนั้น"

ส่วนประเด็นการคลายล็อกทางการเมืองที่ยังไม่ชัดเจน โดยเฉพาะ การหาเสียง นั้น นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า หากจะให้พรรคการเมืองหาสมาชิกโดยไม่ทำกิจกรรมเลย จึงเป็นเรื่องค่อนข้างยาก และขณะนี้ ก็ยังไม่อนุญาตให้ทำได้ เพราะฉะนั้น การรับสมัครสมาชิกก็ยังเป็นปัญหาอยู่ การคลายล็อคแบบนี้ จึงเป็นแค่งานธุรการ และสะท้อนให้เห็นว่า คสช. ยังไม่เข้าใจงานการเมือง

โดยวันนี้มีสมาชิกพรรคเข้าร่วมประชุม เพียง 29 คน เพราะมีผู้ที่แจ้งลาการประชุม 6 คน คือ ดร.รัชดา ธนาดิเรก , ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร์ , นายสรรเสริญ สมะลาภา , คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ,นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน และ นายสมชาญ ศรีสองชัย

related