svasdssvasds

"อนุทิน" ปัด! เป็นพรรคอะไหล่ "ภูมิใจไทย"ยึดเศรษฐกิจดีนำการเมือง

"อนุทิน" ปัด! เป็นพรรคอะไหล่ "ภูมิใจไทย"ยึดเศรษฐกิจดีนำการเมือง

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ปัดเป็นพรรคอะไหล่ขอพรรคเป็นผู้เลือก พร้อมเปิดมิติใหม่ เศรษฐกิจเป็นหลัก การเมืองเป็นรอง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลัง เปิดแนวคิดที่เตรียมสานต่อเป็นนโยบายพรรค ว่า วันนี้พรรคภูมิใจไทยมีอายุมากกว่า 10 ปี เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ในฐานะหัวหน้าพรรค จะทำองค์กรให้ก้าวหน้ายั่งยืน ซึ่งพรรคโชคดีที่แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่เรายืนอยู่บนความพร้อมของสมาชิกทุกคน ขณะนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นพรรคภูมิใจไทยโฉมใหม่เพราะเรานำผู้เชี่ยวชาญมาทำงานด้านต่างๆ ระดมสมองเพื่อพัฒนาแนวคิดไปสู่นโยบายสำหรับการเลือกตั้ง นโยบายวันนี้การเมืองถือเป็นเรื่องรอง แต่เศรษฐกิจต้องมาเป็นหลัก วันนี้ต้องคิดถึงปากท้องของประชาชน เมื่อท้องอิ่ม ในกระเป๋ามีเงิน ประชาชนก็จะสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ นี่เป็นสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยเชื่อมั่น ส่วนเรื่องเล่ห์เหลี่ยมการฟาดฟันและวาทกรรมทางการเมืองที่นำมาทำลายคู่แข่งเพื่อเข้าสู่อำนาจนั้น ไม่ใช่นัยยะของพรรคเรา คนในพรรคจะไม่พูดเรื่องที่เกี่ยวกับการเมืองถ้าไม่จำเป็น

ซึ่งการมอบหมายให้ พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ อดีตรองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เป็นโฆษกพรรค เพราะ ไม่ต้องการการเมืองมาเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อน แต่ต้องการนำเทคโนโลยียุคใหม่เพื่อมาสื่อสารให้กับประชาชน เมื่อถามว่า มีการวางตัว พ.อ.เศรษฐพงค์ให้เป็นถึงระดับรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า วันนี้กำหนดวันเลือกตั้งให้ได้ก่อน ส่วนเป้าหมายแรกของพรรคภูมิใจไทยคือทำอย่างไรให้ผู้สมัครได้เป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทย หลังจากนั้นอะไรจะเกิดให้เป็นเรื่องของอนาคต เป็นเรื่องของผลการเลือกตั้ง

สำหรับกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง ออกมา ระบุ ห้ามระดมทุนจากภายนอกพรรค หากจะทำต้องขออนุญาตจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติก่อนนั่น พรรคภูมิใจไทย ขณะนี้ยังไม่มีปัญหา และไม่คิดว่าจะมีปัญหา ด้านการขับเคลื่อน สมาชิกของพรรคแต่ละคนถือว่าพอที่จะเลี้ยงตัวเองได้ในช่วงที่กิจกรรมทางการเมืองในขณะนี้ยังไม่เต็มรูปแบบ พรรคเราไม่ใช่ที่ที่จะมาแสวงหาอำนาจ หาความได้เปรียบ หาเงิน รายได้และประโยชน์ตัวเอง คนเหล่านี้ขอให้เชิญไปที่อื่น ไม่ใช่ที่นี่ พรรคเราไม่เล่นการเมืองก็มีชีวิตอยู่ได้

เมื่อถามต่อว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ปิดกั้นการร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราดูตัวเองเป็นหลัก ไม่ใช่ดูคนอื่นเป็นหลัก ทำไมต้องบอกว่าเราไปร่วมกับคนนั้นคนนี้ ทำไมไม่คิดว่าคนอื่นจะมาร่วมกับเราบ้าง ให้เราได้เป็นผู้เลือกบ้าง ทำงานใหญ่ทั้งที ต้องให้ตัวเองมีความมั่นใจและมั่นคงมากที่สุด เมื่อถามต่อว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ใช่พรรคอะไหล่ใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า พรรคตั้งใจทำงานขนาดนี้แล้ว ถ้าหากได้รับความไว้วางใจที่มากพอสมควร เราก็ต้องแปรความต้องการของประชาชนว่าการที่เขาเลือกเราเข้ามาจำนวนเท่านี้ เขาต้องการให้เราเป็นอะไร

related