ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เริ่มสื่อสารกับสังคมด้วยการเปิดเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และ อินสตาแกรม อย่างเป็นทางการ ที่ได้รับกระแสตอบรับจากชาวเน็ตคึกคักมาก โดยภายในเว็บไซต์ prayutchan-o-cha.com ได้มีการเปิดเผยประวัติและเส้นทางการทำงานของนายกฯ ตั้งแต่เกิดจนถึงการรับตำแหน่ง มีเนื้อหาระบุว่า
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของราชอาณาจักรไทย เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ.2497 ที่จังหวัดนครราชสีมา
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 จากโรงเรียนสหะกิจวิทยา จังหวัดลพบุรี ต่อมาได้ไปศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย จังหวัดลพบุรี เป็นเวลา 1 ปี และย้ายไปศึกษาต่อที่โรงเรียนวัดนวลนรดิศ กรุงเทพมหานคร จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนสมัครเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 และเป็นนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 23
หลังจบจากรั้วโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าในปี พ.ศ. 2519 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ารับราชการครั้งแรกในยศร้อยตรี ที่กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ หรือที่มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าหน่วย "ทหารเสือราชินี" และได้ผ่านการอบรมหลักสูตรทางทหารต่างๆ เช่น หลักสูตรจู่โจม (เสือคาบดาบ) รุ่นที่ 39 หลักสูตรส่งทางอากาศ รุ่นที่ 94 และหลักสูตรหลักประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ชุดที่ 63 ก่อนได้ขึ้นเป็นผู้บังคับการกรมฯ และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ในปี พ.ศ. 2546
2545-2550 ความเป็นผู้นำ
ในปี พ.ศ. 2548 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับตำแหน่งเป็น รองแม่ทัพภาคที่ 1 ก่อนจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ในปีถัดมา
ในปี พ.ศ. 2553 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชาได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก คนที่ 37 ของกองทัพบกไทยในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก พลเอก ประยุทธ ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความเป็นธรรม และพัฒนากองทัพบกเพื่อให้สมกับที่เป็นสถาบันหลักในการรักษาเสถียรภาพและอธิปไตยของชาติ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และดูแลความปลอดภัย ช่วยเหลือประชาชนคนไทยในยามที่ได้รับความเดือดร้อน
ตลอดระยะเวลาการทำงาน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ผ่านเหตุการณ์ทางการเมืองหลายเหตุการณ์ โดยเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 หลังจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างประชาชน 2 กลุ่มที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน ส่งผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ และเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวจนเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม และเพื่อให้สถานการณ์ดังกล่าวกลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ประชาชนในชาติเกิดความรักความสามัคคี ตลอดจนเพื่อเป็นการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ เพื่อให้เกิดความชอบธรรมกับทุกพวกทุกฝ่าย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงได้ประกาศเข้าควบคุมอำนาจในการปกครองและบริหารประเทศ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ารับหน้าที่ผู้นำประเทศเพื่อสร้างความปรองดอง ยุติความขัดแย้งแตกแยก ที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์และเสถียรภาพเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และนำพาประเทศกลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง โดยมุ่งมั่นอุทิศตนในการฟื้นฟูและพัฒนาประเทศ ซึ่งถือเป็นคำสัญญาสำคัญที่ท่านได้นำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ในระยะสั้น ได้เร่งเสริมสร้างความสามัคคีและแก้ไขปัญหาที่ทำให้การเดินหน้าทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงัก เช่น ปัญหาแรงงาน ปัญหาประมง ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร นอกจากนี้ยังเร่งเดินหน้าโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่างๆ ของประเทศ ปรับปรุงมาตรการเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐให้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงเตรียมการให้ประเทศกลับเข้าสู่ประชาธิปไตยอย่างเหมาะสม ซึ่งมีความสำคัญต่อการวางรากฐานการพัฒนาประเทศต่อไป สำหรับการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในระยะยาว ได้ผลักดันการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาประเทศไทยไปสู่อนาคต และมีแนวปฏิบัติชัดเจน ในการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศ โดยมุ่งให้ประเทศมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ความเหลื่อมล้ำลดลงต่อเนื่อง ธุรกิจและประเทศมีศักยภาพในการแข่งขันสูง บุคลากรมีคุณภาพและเป็นคนดี อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี และภาครัฐสามารถบริหารประเทศและบริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประเทศเติบโตไปได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน