svasdssvasds

นักรัฐศาสตร์ชี้ “ผบ.ทบ.” ส่งสัญญาณประเทศยังไม่หลุดพ้นความวุ่นวาย

นักรัฐศาสตร์ชี้ “ผบ.ทบ.” ส่งสัญญาณประเทศยังไม่หลุดพ้นความวุ่นวาย

กรณีพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก แถลงทิศทางต่อกองพลและเปิดให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ ระบุว่า พร้อมปกป้องสถาบัน ถ้าการเมืองนิ่งก็ไม่มีเหตุให้ต้องปฏิวัติ โดยอย่าสุมไฟขัดแย้ง จนนำไปสู่เหตุจลาจล

ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ วิทยาลัยรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า ผบ.ทบ.ให้ความคิดเห็น ได้แสดงความเด็ดขาดออกมา ถึงจุดยืนที่แสดงออก กรณีที่ยังรับปากไม่ได้ว่าจะปฏิวัติ รัฐประหารหรือไม่ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และระบุต้นเหตุมาจากนักการเมือง เชื่อได้ว่าคำตอบเป็นเช่นนั้น เพราะการเมืองเป็นเหตุให้เกิดความสับสน จนทำให้ความคิดผู้คนแตกแยกมาแล้ว ย่อมมีความชอบธรรม ที่แสดงความรู้สึกห่วงใยถึงเหตุบ้านการเมืองได้

ไม่ถือเป็นเรื่องผิดปกติ หลังพฤษภาทมิฬ 2535 ผบ.ทบ.มักได้รับการคำถามว่าทหารคิดกับการเมืองอย่างไร เพื่อขอทราบถึงทิศทาง วิสัยทัศน์ของทหาร และเมื่อบ้านเมืองเข้าสู่บรรยากาศเลือกตั้งต่อไป การพูดเช่นนี้ก็เป็นการปรามของกองท้พ ซึ่งนักการเมืองก็ไม่ต้องกังวล หากไม่ทำให้เกิดความสับสน วุ่นวาย จนเสี่ยงต่อการนองเลือด ...อย่าลืมว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 วางให้กองทัพเป็นผู้รักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ ทหารคงไม่มีใครอยากมาทำรัฐประหาร ให้เกิดเสียงตำหนิ ติเตียน ถ้าบ้านเมืองสงบเรียบร้อย ทหารก้ไม่มีความชอบธรรมจะไปทำเช่นนั้นนักวิชาการด้านรัฐศาสตร์กล่าว

ผศ.วันวิชิต กล่าวอีกว่า การที่เลือกแสดงความคิดเห็น และจุดยืนของกองทัพในจังหวะนี้ เป็นสัญญาณว่าประเทศยังไม่หลุดพ้นความวุ่นวาย ที่เห็นง่ายที่สุด เมื่อนายกรัฐมนตรี เปิดตัวในการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก  มีสองฝ่ายทั้งติเตียน สนับสนุนในเพจของนายกฯ เหมือนเป็นการสรรพยุทธ์ทางการเมือง บนพื้นที่สาธารณะในโลกออนไลน์ ทำให้ผบ.ทบ.บอกว่าต้องมีการปรับตัวของนักการเมือง  ยิ่งถ้าหากปลดล็อกพรรคการเมืองยิ่งต้องควบคุมให้ดี

ผศ.วันวิชิต กล่าวว่า ความข้ดแย้งส่วนหนึ่งก็เกิดมาจากโซเชียลด้วย ผบ.ทบ.พยายามสนับสนุนระบบการเมือง เน้นย้ำให้คนเคารพกติกา ความยุติธรรม สังคมไทยยังต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะวุฒิภาวะ  เพื่อให้สังคมปฏิเสธความรุนแรง ช่วงนี้ตนมองว่าเป็นเวลาการเปลี่ยนผ่าน พล..อภิรัชต์จึงได้ออกมาแสดงความเห็นตรงไปมาว่า หน้าที่หลักคือการรักษาความสงบของประเทศ

ผมคิดว่า ประชาชนต้องรู้เท่าทัน ทุกครั้งกองทัพเป็นด่านสุดท้ายที่ถูกเรียกร้องให้ออกมาแก้ปัญหาเกี่ยวข้องทางการเมือง ถ้าไม่มีทางไปต่อ ถ้ากลุ่มประชาชนไม่สบายใจแล้วให้กองทัพออกมาทำอะไรบางอย่าง  ยังไม่เรียกว่านักการเมืองยังไม่เข็ด ผบ.ทบ.โยนไปการทำบ้านเมืองสงบหรือไม่ ไม่ใช่กองทัพ แต่เป็นฝ่ายการเมืองนั่นเอง

นักวิชาการรัฐศาสตร์ กล่าวถึงการเห็นด้วยกับ พล..อภิรัชต์ ซึ่งมีท่าทีต้องการประคับประคองทางการเมืองให้สงบสุขว่า  เป็นส่งสัญญาณไปถึงนักการเมืองทุกกลุ่ม

ผมเห็นด้วย ในฐานผบ.ทบ.มีอำนาจใช้กำหมายรักษาความสงบในประเทศ ท่าทีต้องการประคับประคองทางการเมืองให้สงบสุข ส่งสัญยาณไปถึงนักการเมืองทุกกลุ่ม ซึ่งการปฏิวัติรัฐประหารมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในประเทศ แต่ต้องมีหลายปัจจัยถึงจะเกิดขึ้น ไม่ใช่ทางเลือกสุดท้าย ยกเว้นแต่กลไกไปต่อไม่ได้ ทหารคงคิดแล้วคิดอีก บ่มเพาะสถานการณ์จนสุกงอม ไม่มีใครรู้ว่าจะมีการยึดอำนาจอีกหรือไม่ แต่ระบบหรือพรรคการเมืองเป็นนักการเมือง เป็นคนกำหนดชะตากรรมหรือเกมเป็นหลัก

related