3 ผู้ท้าชิงดีเบตลั่น !! ไม่ลาออกหากแพ้ศึกชิงหัวหน้า ปชป.

พรรคประชาธิปัตย์ จัดงานดีเบต 61 ประชาธิปัตย์ คนไทยจะได้อะไร โดยเปิดให้ผู้สมัครเข้ารับการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงวิสัยทัศน์ ประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้สมัครหมายเลข 1 นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม ผู้สมัครหมายเลข 2 และนายอลงกรณ์ พลบุตร ผู้สมัครหมายเลข 3

โดยก่อนการดีเบตผู้สมัครทั้ง 3 คน ได้จับมือกัน เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นการแข่งขันกันฉันท์พี่น้อง

ซึ่ง ทุกคนพยายามชี้ให้เห็นนโยบายของตนเองในการขับเคลื่อนพรรคและพัฒนาประเทศ โดยนายแพทย์วรงค์ กล่าวว่า ต้อง ขจัดปัญหาหนี้สินของประชาชนให้ได้ รู้ปัญหาเกษตรกร และกล้าตัดสินใจเพื่อประโยชน์ของประชาชน ส่วนนายอภิสิทธิ์ ชูเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ขณะที่นายอลงกรณ์ ยืนยันเดินหน้าแก้ไขปัญหาการทุจริต คอรัปชั่น

เมื่อถามถึงจุดยืน หากพรรคประชาธิปัตย์หากชนะการเลือกตั้งจะวางตัวอยู่ในฝั่งที่สนับสนุนเผด็จการ หรือฝั่งที่ไม่สนับสนุน โดยนายแพทย์วรงค์ กล่าวว่า จุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของตนเอง เป้าหมายคือชนะการเลือกตั้ง โดยมีเงื่อนไข 4 ข้อ คือต่อต้านและปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง เรียกร้องให้ทุกพรรคเคารพกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ไม่ส่งเสริมการใช้อำนาจในทางมิชอบ และไม่ร่วมกับพรรคการเมืองที่จาบจ้วงสถาบัน

ขณะที่ นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ถ้าพรรคชนะเลือกตั้ง จัดตั้งรัฐบาลเองแน่นอน แต่ถ้าไม่ได้อันดับหนึ่ง ต้องให้พรรคอันดับสองตั้งรัฐบาลก่อน และแต่ยืนยันไม่เอานายกรัฐมนตรีคนนอก อย่างแน่นอน

ด้านนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หัวหน้าพรรคแต่ละคนมีความโดดเด่นแตกต่างกัน ทุกคนมีคุโณปการต่อพรรค และรักษาพรรคมาได้ยืนยาวจนถึง 71 ปี และเห็นว่าคนไทยและประเทศไทยควรมีสิทธิเลือกมากกว่าเผด็จการและคนขี้โกง ถ้าเราชนะเลือกตั้งเราต้องเป็นคนกำหนดวาระ ถ้าเราได้เสียงมาก ไม่ได้เสียงเด็ดขาด ในรัฐสภาถ้าใครรวบรวมเสียงข้างมากได้ก็เป็น.รัฐบาล ไม่ควรฝืนเจตนารมณ์ของประชาชน และย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นรัฐบาลเพื่อให้คนมีตำแหน่ง แต่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ชูนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ

ทั้งนี้ ผู้สมัครทั้ง 3 คน จะไม่มีใครลาออก หากแพ้การเลือกหัวหน้าพรรคในครั้งนี้ ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พร้อมรับผิดชอบหากนำองค์กร ล้มเหลว แต่จะรับผิดชอบในรูปแบบใด ยังไม่สามารถตอบได้ อย่างไรก็ตามผู้สมัครทั้ง 3 คนยังเห็นตรงกันว่า หากเขาสู้อำนาจจะแก้รัฐธรรมนูญเป็นอย่างแรก

ขณะที่ บรรยากาศการดีเบตเป็นไปด้วยความเข้มข้น แต่ระหว่างการดีเบตก็มีการหยอกล้อกันระหว่างผู้สมัคร สร้างเสียงหัวเราะให้ผู้รับเข้ารับฟัง นอกจากนี้ ผู้สมัครทั้ง 3 คน ยังมีกองเชียร์มาให้กำลังใจจำนวนมาก โดยของนายอลงกรณ์ มีการแห่กองยาวมาให้กำลังใจ ขณะที่กองเชียร์ของนายอภิสิทธิ์ และ นายแพทย์วรงค์ ก็คึกคักไม่แพ้กัน บรรดากองเชียร์ต่างมีการชูป้ายสนับสนุน ทำให้พื้นที่ทั้งบริเวณลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม และบริเวณลานสนามหญ้าเต็มไปด้วยบรรดากองเชียร์ของแต่ละผู้สมัคร