ครม.ไฟเขียวโครงการโครงสร้างพื้นฐาน

การประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร จังหวัดเชียงราย มีมติอนุมัติการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน สำคัญ 4 โครงการในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ประกอบด้วย

1. โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานสนามบินอู่ตะเภา

2. โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก

3. โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3

4. โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 คาดว่าจะได้เอกชนผู้ลงทุนในเดือนกุมภาพันธ์ 2562

 หากรวมกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่ครม. มีมติอนุมัติไปก่อนหน้านี้แล้ว จะมีมูลค่าลงทุนทั้ง 5 โครงการ รวมกันทั้งสิ้น 650,000 ล้านบาท โดยรัฐเป็นผู้ลงทุนประมาณ 2 แสนล้านบาท ผลตอบแทนทางการเงินของภาครัฐ ประมาณการไว้ที่ 450,000 ล้านบาท และ จะเกิดการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นคนต่อปี ล่าสุด 5 โครงการของ EEC ได้ผ่าน ครม.หมดแล้ว จะได้ผู้ลงนามในสัญญา ก.พ.ปีหน้า

 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นรับข้อเสนอของจังหวัดเชียงราย หลังจากที่ครม.อนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เด่นชัย - เชียงราย - เชียงของ คาดว่าจะสามารถสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2565 โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หลายโครงการต้องให้ความสำคัญ อย่าไปเน้นว่าใช้งบประมาณมากน้อยแค่ไหน สิ่งที่เป็นประโยชน์ในตอนนี้ คือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการเพิ่มรายได้ให้ประชาชนทั้ง 4 จังหวัดภาคเหนือ

 พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยถึงข้อเสนอ ยกวนอุทยาน "ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน" จ.เชียงราย ขึ้นเป็นอุทยานแห่งชาติว่า คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และท้องถิ่นไปร่วมพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงาม รวมทั้งรักษาประวัติศาสตร์ ซึ่งได้เร่งดำเนินการอยู่แล้ว ส่วนการพัฒนาเป็นอุทยานแห่งชาติ ต้องเป็นไปตามขั้นตอน