นายกฯ ขอโทษใช้คำไม่สุภาพ ยืนยันไม่มีเจตนา ไม่มีส่วนได้เสียการแบ่งเขตเลือกตั้ง เพื่อไทยเตือน นายกฯให้ระหว่างคำพูด เพราะถ้าเป็น ส.ส.ในสภา จะถูกตอบโต้ด้วยภาษเดียวกัน
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีแสดงความไม่พอใจคำถามเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ว่านายกฯ ขอโทษที่ใช้คำไม่สุภาพ แต่ที่จริงไม่มีเจตนา
เพียงแต่ต้องการสื่อว่า ตัวท่านเองและรัฐบาล ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับการแบ่งเขตการเลือกตั้งของ กกต. และ กกต.ก็ชี้แจงหลักเกณฑ์ การแบ่งเขตชัดเจนแล้วว่ามาจากอะไร เช่น การใช้เกณฑ์ประชากรที่เพิ่มขึ้น เมื่อข้อเท็จจริงเป็นแบบนี้ สิ่งที่เคยทำมาแต่เดิมก็ต้องปรับเปลี่ยนตามไปด้วยเพื่อให้เกิดความเหมาะสม และไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ ไม่ใช่ทำเพื่อเข้าข้างใครทั้งสิ้น
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในสังคม โดยทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน รักษาความสงบของบ้านเมือง และเตรียมตัวสู่การเลือกตั้ง ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจเอง
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านไลน์ออฟฟิเชียล กรณี ดังกล่าวว่า "เข้าใจได้ครับว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์ต้องสบถเมื่อถูกถามเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง ไม่มีคำสั่ง คสช. ไม่มีนักการเมืองสุโขทัยที่ประกาศสนับสนุนท่าน ซึ่งตนมั่นใจว่าการแบ่งเขตตามรูปที่ออกมาไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะไม่อยู่ในแบบที่ กกต.จังหวัดเสนอมา ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไม่อยากหงุดหงิดอีก ก็ควรแสดงให้เห็นว่าจะทำอะไรให้ทุกฝ่ายมั่นใจว่าจะไม่ใช้อำนาจก้าวก่ายแทรกแซงในเรื่องการเลือกตั้ง โดยเฉพาะหากตนเองมีส่วนได้เสียกับการเลือกตั้งครั้งนี้
นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีสิทธิ์ใช้ประชาชน หรือข้าราชการประจำเป็นที่ระบายอารมณ์ ไม่ว่าจะทำงานหนักแค่ไหน เครียดเรื่องอะไร ไปโกรธใครที่ไหนมา คนเป็นนายกฯ มีหน้าที่ต้องแก้ไขปัญหาของประเทศ แบกรับปัญหาประชาชน ต่อให้งานที่หนัก ปัญหาที่มากอย่างไร ก็ต้องก้มหน้าปฏิบัติและแก้ไขเท่านั้น ถ้าถึงที่สุดจริงๆ ทำได้อย่างเดียว คือเล่าความจริงเกี่ยวกับการทำงานให้ประชาชนฟัง แต่ไม่มีสิทธิ์มาใช้คำผรุสวาท ด่ากราด ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ไปทบทวนไตร่ตรองให้ดี ว่าการมีพฤติกรรมแบบนี้เหมาะสมแล้วหรือที่จะอาสาตัวมาทำหน้าที่นายกฯ
ขณะที่ นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ กรรมการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า นายกรัฐมนตรีต้องสุขุมเยือกเย็นมากกว่านี้ หากยังเป็นคนเจ้าอารมณ์แบบนี้ ถ้าได้เป้นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ จะเจอปัญหาความร่วมมือและการยอมรับ ถ้ายังใช้ภาษาที่ใช้อยู่แบบนี้ ส.ส.ก็จะพูดกับท่านด้วยภาษาเดียวกัน เพราะทุกคนมีสิทธิเท่ากันในสภา ไม่เหมือนปัจจุบันที่ท่านมีอำนาจเหนือกว่าคนอื่น จึงอยากเตือนนายกรัฐมนตรีให้ทบทวนตัวเองถ้าคิดจะมาเล่นการเมือง