ป.ป.ช. แจงสอบคดีจีทูจีล็อต 2 แจ้งผู้ถูกไต่สวนแล้ว ย้ำไม่สะดุดหากเจ๊แดงเผ่นออกนอก

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  (ป.ป.ช.). กล่าวถึงการพิจารณาคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจีล็อต 2 ว่า  ป.ป.ช.ได้แจ้งผู้ถูกไต่สวนแล้วตามกระบวนการ ซึ่งผู้ถูกไต่สวนมีสิทธิ์คัดค้านได้ ขณะเดียวกันก็ได้สั่งไต่สวนผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมด้วย รวมถึงการสอบถามผู้ที่ถูกดำเนินคดี เพื่อพิจารณาว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่านางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ได้หลบหนีออกนอกประเทศ ประธาน ป.ป.ช.ระบุเพียงว่า ตามกระบวนการของกฎหมายใหม่  แม้ป.ป.ช.ไม่สามารถเปิดเผยชื่อผู้ร้องและผู้ถูกกล่าวหาได้  และแม้ว่าผู้ถูกกล่าวจะหลบหนีออกนอกประเทศ คดีก็จะไม่สะดุดหยุดลง สามารถเดินหน้าสอบปากคำ รวบรวมพยานหลักฐาน และชี้มูลความผิดได้ได้ตามกฎหมาย เพียงแต่ผู้ถูกกล่าวหาจะไม่มีโอกาสชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา โดยกระบวนการหลังจากนี้คณะกรรมการป.ป.ช.จะพิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่ต้องเร่งรัดให้คดีต้องเสร็จสิ้นก่อนการเลือกตั้ง โดยจะแล้วเสร็จเมื่อใดขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน

สะพัด ! เจ๊แดงเผ่นนอกแล้ว เก็บผ้าเก็บผ่อนอยู่กับ “ทักษิณ” กลิ่นตุเช็คบิลจำนำข้าว

พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวอีกว่า หลังมีการปรับโครงสร้าง ป.ป.ช.ใหม่ตามกฎหมาย ในเดือนมกราคมปี 2562  จะเชิญเจ้าหน้าที่ระดับบริหารทั้งหมดมาหารือเรื่องภารกิจรองรับกฎหมายใหม่ โดยการยกระดับการทำงานของป.ป.ช.ภาคให้มากขึ้น และจะเร่งรัดการทำงาน เช่น ฝายแม้วที่ต้องมีการเข้าพื้นที่ตรวจสอบปากคำพยาน ทั้งนี้ระบุว่าไม่ได้นำเรื่องการจัดการเลือกตั้ง และมีนักการเมืองที่เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องกับคดีมาเป็นหลักในการพิจารณาเร่งรัดกระบวนการ

ประธานป.ป.ช.กล่าวถึงกรณีมีคำสั่งหัวหน้า คสช.เกี่ยวกับการแก้ไข พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ​ว่าด้วยป.ป.ช. และประกาศป.ป.ช. กรณีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินนั้น ว่า คำสั่งคสช.เรื่องดังกล่าว ถือเป็นคำสั่งที่ช่วยคลายล็อกการทำงานให้กับป.ป.ช. ให้สามารถใช้ดุลพินิจในการกำหนดตำแหน่งเฉพาะหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งที่ต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินได้ ซึ่งในวันที่ 4 ม.ค.นี้  ป.ป.ช.จะเชิญหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องมาหารือ เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับรายละเอียดตามมาตรา 102 ที่กำหนดให้กรรมการและผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานรัฐทุกแห่งต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สิน โดยหลังจากการหารือแล้ว จะมีการแก้ไขประกาศป.ป.ช.เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป ทั้งนี้เมื่อมีการแก้ไขประกาศป.ป.ช.แล้ว ก็จะส่งผลให้กรรมการสภามหาวิทยาลัย และกรรมการกองทุนบางหน่วยงาน ไม่ต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน

ทางด้านนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. ระบุว่าในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคมนี้จะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาชี้มูลคดีนาฬิกาหรูของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  ภายหลังจากได้รับรายงานการสรุปของคณะทำงานเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา