svasdssvasds

"กรณ์ จาติกวณิช" แจงยิบ นโยบายพรรค ปชป. "เด็กเข้มแข็ง"

"กรณ์ จาติกวณิช" แจงยิบ นโยบายพรรค ปชป. "เด็กเข้มแข็ง"

สังคมในโลกโซเชียลมีเดีย พากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย กับนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ "เด็กเข้มแข็ง" ประเด็นที่น่าสนใจคือ เกิดปั๊บรับเงินแสน จ่ายเบี้ยเด็กอายุ 0-8 ปี เดือนแรก 5,000 บาท ถัดไป เดือนละ 1,000 บาท ว่า นโยบายนี้คุ้มค่าหรือไม่เพราะต้องใช้เม็ดเงินมหาศาล

"กรณ์ จาติกวณิช" แจงยิบ นโยบายพรรค "เด็กเข้มแข็ง"

หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเปิดตัวนโยบายครั้งแรก เรื่องการศึกษาของคนไทย หวังยกระดับคุณภาพลูกหลานไทยว่า ตนหวังว่าการเลือกตั้งในเดือนก.พ.2562 จะเป็นโอกาสสำหรับประชาชนและประเทศ จึงขออย่าเป็นเพียงพิธีกรรมสำหรับนักการเมือง เพื่อตอบสนองอำนาจหรือผลประโยชน์ แต่ต้องการให้ประเทศหลุดพ้นวังวนเดิมๆ เพื่อเป็นโอกาสให้ประชาชนยกระดับความเป็นอยู่ของสังคม และประเทศเดินหน้า

"กรณ์ จาติกวณิช" แจงยิบ นโยบายพรรค ปชป. "เด็กเข้มแข็ง"

สังคมในโลกโซเชียลมีเดีย พากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเปิดตัวนโยบายด้านการศึกษา "เด็กเข้มแข็ง" จ่ายเบี้ยเด็กอายุ 0-8 ปี เดือนแรก 5,000 บาท ถัดไป เดือนละ 1,000 บาท คำนวนแล้วใช้เงิน อยู่ที่ 100,000 บาท นโยบาย มี 10 หัวข้อหลักคือ

1. เกิดปั๊ปรับสิทธิ์เงินแสน

2. ศูนย์เด็กเล็กคุณภาพดีทั่วไทย

3. อาหารเช้า-กลางวัน ฟรี มีคุณภาพ (อนุบาล-ม.3)

4. เด็กทุกคนพูดอังกฤษได้

5. ปรับหลักสูตรเพื่อโลกอนาคต

6. เรียนฟรี ถึง ปวส. จบแล้วมีงานทำ

7. การศึกษาตลอดชีวิต คูปองเพิ่มทักษะสำหรับผู้ใหญ่

8. คืนครูให้นักเรียน

9. กองทุน Smart Education

10. กระจายอำนาจให้โรงเรียน

ล่าสุด นายกรณ์ จาตุวนิก รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มาให้รายละเอียดในเรื่องนี้ ในรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ที่ออกอากาศทางช่อง NOW 26 ว่า

"กรณ์ จาติกวณิช" แจงยิบ นโยบายพรรค ปชป. "เด็กเข้มแข็ง"

"อันดับแรกต้องทำความเข้าใจก่อน ในบางเรื่องมีความจำเป็นต้องใช้เงินงบประมาณในการแก้ปัญหา จากการวิเคราะห์ กลุ่มที่ควรได้รับการสนับสนุนที่สุดคือเด็กปฐมวัย หรือเด็กแรกเกิด และจากข้อมูลเชิงวิชาการ ยืนยัน ชี้ให้เห็นว่า ช่วงการพัฒนาที่ดีที่สุดของมนุษย์ คือในวัยช่วง 4-6 ปีแรก โดยบังเอิญเด็กว่าช่วงนี้ จะมีการช่วยเหลือและลงทุนกับเด็กช่วงนี้น้อยมาก แต่มักจะลงทุนกับเด็กโต สัมพันธ์กับทางฝ่ายวิชาการที่วิเคราะห์ว่า การลงทุนกับเด็กในวัยนี้น้อยมาก จึงเป็นเหตุผลทำให้เด็กไทยพัฒนาได้น้อย โดยเฉพาะเด็กยากจน ซึ่งลูกคนรวยไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ เพราะเกิดมาก็มีนมดีๆกิน มีอาหารดีๆกิน มีการบำรุงสมองที่เพียงพอ แต่ยิ่งจนยิ่งไม่มี สมมุติว่าเราไปทางภาคอีสานจะเห็นว่าเด็กเกือบ 1 ใน 3 ที่ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ตัวเอง สาเหตุเหล่านี้เป็นสาเหตุทางเศรษกิจ เพราะพ่อแม่ต้องเข้าเมืองไปหางานทำ เพราะไม่มีทุนทรัพย์ที่จะดูแลลูกของตัวเองได้ เพราะฉนั้น จึงได้ตกผลึกทางวิชาการ ต้องทำอะไรบางอย่าง ที่ต้องยกระดับเด็กไทยในวัยนี้ และนี่คือคำตอบที่พรรคประชาธิปัตย์นำเสนอ"

"กรณ์ จาติกวณิช" แจงยิบ นโยบายพรรค ปชป. "เด็กเข้มแข็ง"

ด้านการจ่ายเบี้ย1,000 บาท ต่อเดือนถามว่า เราจะให้ ใครเพื่ออะไร วัตถุประสงค์นี้คือให้คุณแม่จัดหาอาหาร, นม ที่มีคุณภาพให้กลับลูกเล็กของเค้าเอง ซึ่งความจริงแล้วเงิน 1,000 บาทนั้นน้อยครับ แต่ก็ถือว่าอยู่ในสถานะการคลังของประเทศนี้ คือระดับหลากหลายสาขาวิชาเค้าแนะนำมา ได้ประมาณภาระทางการคลังทางการคลังจากนโยบาย "เด็กเข้มแข็ง" ต่อไปว่า เรามองว่า 0-8 ขวบ ได้สิทธิ แต่ถ้าให้เด็กต่ำกว่า 8 ขวบ รัฐบาลไม่มีเงินไม่พอ เราก็เลยว่าเอาอย่างนี้ ตอนนี้มีเด็กได้รับสิทธิอยู่ประมาณ 400,000 กว่าคน ที่ได้รับสิทธิ 600 บาทต่อเดือน ระยะ3ปี เด็กทุกคนถ้าอยู่ในโครงการที่ว่านี้ จะได้รับสิทธินี้หมด แต่ยกระดับเป็น 1,600 บาท

"กรณ์ จาติกวณิช" แจงยิบ นโยบายพรรค ปชป. "เด็กเข้มแข็ง" โดยกลุ่มแรกที่ได้ลงทะเบียนไว้ในโครงการรัฐบาลในปัจจุบัน จากนั้นก็ให้เด็กที่เกิดใหม่ทุกคน และตั้งใจให้ย้อนหลังอีก 15 ธ.ค. 2561 ตั้งแต่ 15 ธ.ค. เด็กที่เกิดใหม่ทุกคนจะได้สิทธินี้ แต่นี้จะไม่ใช่โครงการแต่จะเป็นรัฐสวัสดิการณ์ แต่ทำไมแค่เด็ก 400,000 กว่าคน เป็นจำนวนที่น้อยมาก เพราะว่ามีเงื่อนไขการลงทะเบียนเยอะ คนที่จะเข้าไม่ถึงคือส่วนใหญ่คือกลุ่มคนเป้าหมาย คนจน เฉลี่ย 30% และคนที่รวยก็สามารถสละสิทธิได้ โดยการคัดกรอง มีค่าใช่จ่ายอยู่เสมอ

ซึ่งในบางเรื่องของรัฐสวัสดิการณ์ควระเป็นสิทธิของทุกคน เป็นคนรวยก็เสียภาษีเหมือนกัน โดยภาระทางการคลังนั้นลงปีละ 12,000 ล้านบาท ในปีแรก คือ 400,000 กว่าคน ได้รับสิทธิ แล้วบวกกับเด็กที่เกิดใหม่ ปี 2-3 จะเพิ่มขึ้น ประมาณ หมื่นล้าน จนถึงปีที่ 8 หลังจากนั้นจะลดลง แล้วประเทศไทยจะแบกได้ไหม? ตอนนี้งบประมาณพื้นดิน อยู่ที่ 3 ล้านล้าน และเพิ่มขึ้นมา 4-5% งบนั้นควรที่จะจัดสรรค์ให้ใครบ้าง ? ให้เด็กครับ เพราะการศึกษา การพัฒนาการสำคัญที่สุด สุดท้ายการแก้ไขความเหลือมล่ำคือวิธีที่กล่าวมาใน เวลาระยะยาว

related