ครม.จัดเต็ม มอบของขวัญปีใหม่ปชช.-กระตุ้นเศรษฐกิจ-ลดความเหลื่อมล้ำ

พันเอกหญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่มีการเห็นชอบมาตราการกระตุ้นเศษฐกิจช่วงปีใหม่ ผ่านบริการช่องทางของแต่ละกระทรวงเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2562 ให้กับประชาชน ประกอบด้วย กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดทำ โครงการบูรณาการหน่วยงานเคลื่อนที่เพื่อดูแลประชาชนเพื่อถวาย เป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินพระมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โครงการตรวจยีนแพ้ยา 10,000 คน โครงการจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ด อาสาสมัครสาธารณสุข(อสม) สธ.

ด้านกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้นำเสนอบริการระบบตรวจสอบสิทธิ์เพื่อเข้าใช้บริการอินเตอร์เน็ตสาธารณะโดยประชาชน สามารถเข้าใช้ระบบอินเตอร์เน็ตสาธารณะด้วย username และ Password ได้ทั่วประเทศ อาทิ สนามบิน สถานีขนส่ง สถานที่ท่องเที่ยว เป็นต้น โครงการช็อป ซอฟต์แวร์ลดหย่อนภาษีร้อยละ 200 มูลค่าสูงสุด 10,000 บาทต่อราย การทดลองใช้บริการเรียกเก็บเงินปลายทางการเปิดให้บริการ Open House ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาค ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมได้โดยไม่ต้องทำหนังสือหรือเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ระหว่างวันที่ 1-14 มกราคม 2562

ด้านกระทรวงแรงงาน ได้มีการขยายสิทธิลูกจ้างชั่วคราวจำนวน 11,500,000คน (11ล้าน5แสน) เพิ่มอัตราค่าทดแทนร้อยละ70 ของค่าจ้างรายเดือน เพิ่มระยะเวลาการจ่ายค่าทดแทนกรณีลูกจ้างทุพพลภาพเป็นไม่น้อยกว่า 15 ปี เพิ่มระยะเวลาการจ่ายค่าทดแทนกรณีลูกจ้างเสียชีวิตหรือสูญหายเป็น 10 ปีและเพิ่มค่าทำศพแก่ผู้จัดการศพของลูกจ้างเป็นจำนวน 40,000 บาท พร้อมจัดทำบริการเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตทาง YouTube กว่า 174 เรื่องโดยจัดให้มีวีดิทัศน์เพื่อการเรียนรู้หรือฝึกอบรมออนไลน์ด้วยตนเองทุกที่ทุกเวลาผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเว็บไซต์ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานและสมัครเข้ารับการพัฒนาทักษะ 4.0 จำนวน 286 หลักสูตร

ด้านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่งมอบโครงการชลประทานขนาดเล็กจำนวน 6 โครงการปรับปรุงโครงการชลประทานและก่อสร้างแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน โดยมีเกษตรกรได้รับประโยชน์กว่า 51,600 คน 17,500 ครัวเรือน จัดจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์การเกษตรจุดจำหน่ายของหน่วยงานต่างๆและในตลาดออนไลน์เพื่อให้เกษตรกรได้รับผลประโยชน์สูงสุด รวมไปถึงเปิดสถานที่ราชการ ปรับภูมิทัศน์รองรับนักท่องเที่ยว และเปิดแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรปศุสัตว์และพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ให้ประชาชนเข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย พร้อมเปิดจุดให้บริการผ่านจุดบริการต่างๆกว่า 160 จุดในพื้นที่ 76 จังหวัดอีกด้วย

กระทรวงการต่างประเทศ โดย กรมการกงศุลได้เปิดบริการพิเศษให้บริการเอกสารแปลสําเร็จรูปก่อนการรับรองนิติกรณ์เอกสาร เพื่อลดภาระของประชาชน และให้เกิดความสะดวกรวดเร็วในการดำเนินการ สั่งให้บริการเป็นระยะเวลา 3 (มกราคมถึงมีนาคม 62) ทั้งนี้ประชาชนเจ้าของเอกสารต้องมายื่นและกรอกคำร้องด้วยตัวเอง โดยมีค่าบริการส่งเอกสารทางไปรษณีย์จำนวน 60 บาท ด้านกระทรวงวัฒนธรรมได้เชิญชวนประชาชนทุกพื้นที่รักษาศีลจิตภาวนาปฏิบัติธรรมและสวดมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลทั่วประเทศในวันที่ 29 ธันวาคม 61ถึง 1 มกราคม62 รวมทั้ง อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปสำคัญที่ประดิษฐานทั้งในและต่างประเทศจำนวน 13 ประเทศ จากลานพลับพลามมหาเจษฎาบดินทร์ไปประดิษฐาน ณ. มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 61ถึง 1 มกราคม62 เช่นเดียวกัน

ด้านศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ได้จัดทำหอเฉลิมพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์การพัฒนาชายแดนภาคใต้ระยะที่ 1 และศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ตอนล่างและ ส่งมอบโอกาสในชีวิตด้านการสร้างงานสร้างอาชีพกระจายรายได้ภายใต้พัฒนาเศรษฐกิจไร้รอยต่อผ่านโครงการประมงสันติสุขเพื่อเร่งขยายพื้นที่อนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนเพิ่มพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและแก้ปัญหาการทำประมงพร้อม เร่งผลักดันกิจกรรมหลักโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืน พร้อม เร่งรัดก่อสร้างและเตรียมความพร้อมสนามบินเบตงจังหวัดยะลาให้สามารถเปิดดำเนินการในวันที่ 1 มกราคม 2563 พร้อมเร่งยกระดับพื้นที่เศรษฐกิจ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้เชื่อมโยงสู่การระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ด้านสำนักงาน ก.พ.ร ได้ดำเนินการร่วมกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการพัฒนาระบบการให้บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จทางอิเล็กทรอนิกส์ (Biz Portal) ผ่านช่องทางออนไลน์อีกด้วย