"ปรีชาพล" เปิดตัวเพลง “ไทยรักษาชาติ” - ณัฐวุฒิ จี้ กกต. แสดงจุดยืนไม่เลื่อนเลือกตั้ง [คลิป]

พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) แกนนำและสมาชิกพรรคทษช. ร่วมเปิดตัวเพลง “ไทยรักษาชาติ” ซึ่งเป็นเพลงที่พรรค ทษช.จะใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรคทษช. เป็นผู้แต่งเพลงดังกล่าว

ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติแถลงข่าวเปิดตัวมิวสิควิดิโอ MV "เพลงไทยรักษาชาติ คิดใหม่​ ทำใหม่​ กล้าเป​ลี่​ยนแปลง" ว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ เราอยากส่งมอบความสุขให้ประชาชน ด้วยจังหวะเพลง ที่สื่อถึงความทันสมัย และตัวตนของพรรคไทยรักษาชาติ ด้วยการหลอมรวมทั้งคนรุ่นใหม่และคนที่มีประสบการณ์เข้ามาทำงานร่วมกัน ซึ่งทำนองและดนตรีจะออกแนวสมัยใหม่ ก้าวล้ำเทคโนโลยี ตอบสนองกับคนทุกเพศทุกวัย โดยเพลงนี้มีนายณัฐวุฒิ​ ใสยเกื้อ เป็นผู้แต่ง

ทั้งนี้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะทำ​งาน​รณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง กล่าวถึงเนื้อหาของเพลงว่าในฐานะผู้แต่งเนื้อร้อง​ เพลงนี้เป็นเพลงที่ฉีกกฎของเพลงพรรคการเมืองทั่วไป เป็นความตั้งใจส่วนตัวที่จะสะท้อนให้เห็นว่าความเป็นพรรคไทยรักษาชาติ นอกจากมีความทันสมัยแล้ว เรายังมีคนที่มีประสบการณ์ทางการเมืองและมีคนที่มีความเชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาอาชีพ มารวมตัวกัน แก้ไขปัญหาประเทศ เปิดกว้างทางความคิด มีหัวใจประชาธิปไตย​พร้อมล้วนแล้วแต่มีบุคลากรที่มาจากไทยรักไทย​ พลังประชาชน​ และเพื่อไทย

นอกจากนี้ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวถึงข่าวการเลื่อนการเลือกตั้ง ของกกต.เนื่องด้วยการพิมพ์บัตรเลือกตั้งไม่ทัน ว่าพรรคไทยรักษาชาติขอเรียกร้องความชัดเจนของกกต. ในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.กำลังจะสร้างปัญหาให้การเลือกตั้ง ทั้งที่การเลือกตั้งการพิมพ์บัตร ไม่ใช่เหตุผลที่กล่าวอ้างได้ ถ้าเลื่อนการเลือกตั้งมีเพียงเหตุผลเดียวคือการสร้างความได้เปรียบของพรรคฝ่ายรัฐบาล

นอกจากนี้ยังมีข่าวการเลื่อนรับสมัครสมาชิกพรรคอีกครั้งโดยการใช้ ม.44 ปลดล็อค 90 วันซึ่งจะสร้างความได้เปรียบอีกครั้ง กับพลังดูดผ่านนโยบายของรัฐบาล ช็อปช่วยพลังประชารัฐหรือไม่ ตลอด 5 ปี การกระทำของรัฐบาลและองค์กรอิสระ เช่น ป.ป.ช.แสดงให้เห็นแล้วว่าเอื้อประโยชน์แก่ผู้มีอำนาจเท่านั้น และกกต.จะทำแแบบเดียวกันอีกหรือ วันนี้พรรคไทยรักษาชาติ ขอแสดงจุดยืนให้ กกต.จัดการเลือกตั้งตามกำหนด และพรรคไทยรักษาชาติพร้อมยืนหยัดกับประชาชน

ด้านนายนิคม ไวชรัตพานิช อดีตประธานวุฒิสภาในฐานะคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติกล่าว ถึงการเลือก ส.ว.ว่าพรรคไทยรักษาชาติพยามยามแก้ไขให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง แต่ สนช.อยากให้ ส.ว.มาจากหลากหลายสาขาอาชีพ สรรหาจาก 10 วิชาชีพ มีเพียงผู้สมัครแค่ 7,200 คน ความสนใจของประชาชนน้อยมากใช้งบประมาณ 1,300 ล้านบาท การสรรหา ส.ว.กลายเป็นระบบพวกพ้อง มีการซื้อเสียงเพื่อให้ได้คะแนนที่สูง แต่สุดท้าย คสช.ก็คัดเลือกจาก 200 เหลือ 50 คน

อดีตประธานรัฐสภายังได้กล่าวถึงการตัดสินของป.ป.ช. และมีมติไม่สั่งฟ้อง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กรณีนาฬิกาหรูนาฬิกาอีกด้วยว่าเป็นสร้างมาตราฐานที่ไม่ถูกต้อง ป.ป.ช.กลายเป็นองค์กรที่ชี้มาตราฐานของสังคมที่ไม่ถูกต้อง เราสนับสนุน20,000 คนที่สังคมต้องการถอดถอนป.ป.ช.

"สิ่งที่กังวลตอนนี้คือ กกต.จะจัดการเลือกตั้งอย่างเท่าเทียมและเสรีเป็นธรรมหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องจับตาดูกันต่อไป"นายนิคมกล่าว