ขอต่อยอด 30 บาทพลัส!! สิ่งที่คาดหวังของ “นพ.เรวัต วิศรุตเวช” หมอผู้นิยมการเดินทาง

นพ.เรวัต เปิดใจว่า  เข้ามาร่วมงานการเมือง โดยไม่เคยรู้จักพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเป็นการส่วนตัว รู้จักผ่านทีวีตอนที่หัวหน้าพรรครับราชการตำรวจก็มองว่าเป็นคนตั้งใจทำงาน ทำจริง ซื่อสัตย์ มีผลงาน ได้เจอตัวจริงเมื่อ 1 ปีที่เเล้ว ไม่ทราบว่าหัวหน้าพรรคไปค้นประวัติของตนเองมาจากไหน ก็มาคุยว่าขอเเรงมาช่วยงานพรรคนี้ด้วย เมื่อแรกยังไม่ได้รับตอบรับ เพราะไม่รู้วันเลือกตั้ง เมื่อการเมืองชัดเจนขึ้น ตนจึงมารับ หน้าที่รองหัวหน้าพรรคดูเเลสาธารณสุขเเละสังคม

“เลือกตั้งคราวนี้คนไทยควรมองว่าหัวหน้าองค์กรมีบุคลิกเเละผลงานในอดีตอย่างไร ที่วันนี้มาอาสาทำงานให้สังคม ควรเทียบดูกันหลายๆคนเพื่อที่จะตัดสินใจว่าควรเลือกใครเป็นผู้บริหารประเทศในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผมหวังต่อยอดโครงการบัตร 30 บาทให้ครอบคลุม คิดชื่อไว้เล่นๆว่า บัตร 30 บาทพลัสเพื่อต่อยอดการดูเเลเเละรักษาสุขภาพของคนไทยกว่า 48 ล้านคน ในฐานะหนึ่งในผู้ร่วมผลักดัน โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค หรือ “โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” (บัตรทอง) ที่บรรเทาความเดือดร้อนของคนไทยกว่า 80,000 ครอบครัวมิให้ล้มละลายจากการใช้เงินทองรักษาตัว”

คุยเรื่องหนักๆ แบบการเมือง นพ.เรวัต ก็ขอทาง คุยแบบสบายๆ สไตล์หมอนักเดินทางสักนิด โดยเล่าว่า หลาย 10 ปีที่รับราชการมา  เมื่อถึงวันผ่อนคลาย ทำให้หมอนึกนิยมการท่องเที่ยวและชมภาพยนตร์

“ผมชอบการเดินทางไปในประเทศหรือเมืองที่คนไทยไม่นิยมไป  เช่น ผมเคยไปเกาะซิซิลี  (เกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางภาคใต้ของประเทศดิตาลี) ดินแดนที่มีชื่อเสียงเพราะเป็นแหล่ง “มาเฟีย” ต้นตอของหนัง The Godfather  บ้านเกิดของดอนวีโต คอร์เลโอเน่ เเละไปดูว่าวันที่ไมเคิล คอเลโอเน่   หนีคดีจากอเมริกากลับบ้านเกิดของพ่อนั้น อิตาลีเป็นอย่างไร  มาเฟียมีชื่อทางการว่า Cosa Nostra ทุกวันนี้ กิจกรรมผิดกฎหมายยังมีอยู่ในหลายรูปแบบ เเต่วันที่ผมไปเที่ยวที่นั่น เพื่อนอิตาเลี่ยนเดินไปด้วย จึงไม่มีปัญหาใดๆ(ยิ้ม) ผมไปที่นี่เพราะเสพย์ภาพยนตร์ดีๆเพื่อเป็นรางวัลให้ชีวิต หนังเรื่องนี้ผมดูมากกว่า 20 รอบเลยนะ”

พร้อมกับบอกด้วยว่า หนังเรื่องLife Is Beautiful (1997) ที่มีชื่อภาษาไทยว่า"ยิ้มไว้โลกนี้ไม่มีสิ้นหวัง" ยังทำให้เดินทางไปเมืองอเรซโซ ที่ถ่ายทำหนังเรืองนี้เลย หนังเรื่องนี้สื่อการกวาดล้างเผ่าพันธุ์ยิวในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยนาซี ที่อิตาลีเเต่พระเอกที่เป็นชาวยิวในหนัง ถูกเข้าค่ายกักกันพร้อมลูกชาย พยายามรักษาภาพชีวิตสวยงามในภาวะเหตุการณ์ที่เลวร้าย โดยต้องโกหกลูกชายอยู่ตลอดเวลาให้มีรอยยิ้มเเละความหวังที่จะรอดชีวิต หนังเรื่องนี้ดีมากเลย ตนดูเสร็จมีโอกาสก็ไปเมืองนี้  เเม้เเต่ซาราเยโว (เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา)ที่มีข่าวการฆ่ากันเพราะเผ่าพันธุ์เเละศาสนา เเต่ผมไปมาเเล้วนะ

ก่อนจบท้ายพูดคุยว่า  “ว่างๆว่าจะเขียนหนังสือในเมืองที่คนไทยไม่ค่อยไปเเละมีประวัติศาสตร์อย่างไร รวมทั้งมีผลอย่างไรกับโลกด้วย หากไปเมืองที่มีความเกี่ยวโยงกับหนังที่ผมชอบดูก็จะยิ่งดีเลย”