svasdssvasds

เปิดใจ "สุริยะ" กุนซือพลังประชารัฐฟันธงรัฐบาลใหม่ผสมหลายพรรค

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ หวนกลับมาทำการเมืองเพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง ระบุรัฐบาลชุดใหม่เป็นรัฐบาลผสมหลายพรรคและ พปชร.พร้อมทำงานกับทุกพรรค

นายสุริยะ จึงรุ่งเรื่องกิจ ประธานยุทธ์ศาสตร์ภาคอีสาน พรรคพลังประชารัฐกล่าวที่จ.นครราชสีมา ถึงเหตุผลการกลับมาทำการเมืองว่าที่ตนตัดสินใจมาดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งนี้ ตั้งแต่ที่ตนอยู่พรรคไทยรักไทยทำงานในตำแหน่งล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และเคยถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับการทุจริตเครื่อง CTX ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้มีการพิสูจน์แล้วว่าตนเองบริสุทธิ์ โดยผ่านทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจจากสภาผู้แทนราษฎร และ ป.ป.ช.ก็มีมติ 9 ต่อ 0 ตัดสินให้ตนไม่มีความผิด หลังจากนั้นตนก็ได้ตัดสินใจเลิกเล่นการเมืองนานกว่า 10 ปี ระหว่างที่ตนเลิกเล่นการเมืองก็ได้มีโอกาสไปทำในสิ่งที่ตนเองชอบและมีความสุขที่ได้อยู่กับครอบครัวทำธุรกิจและอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่ที่ตนจำเป็นต้องกลับมาทำการเมืองอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเห็นว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะมาถึงถ้าไม่มีพรรคการเมืองใหม่มาให้พี่น้องประชาชนเลือก การต่อสู้ก็จะเกิดระหว่างสองพรรคเดิมคือพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งความขัดแย้งในอดีตหลายครั้งที่ผ่านมาเป็นการต่อสู้ระหว่างสองพรรค ฉะนั้นการเมืองก็จะเกิดเป็นวัฏจักร และพอต่อสู้กันหนักเข้าไปในที่สุดต่างคนต่างมีสมาชิกที่สนับสนุนของแต่ละพรรคมันก็เลยทำให้เกิดความขัดแย้งจนนำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหาร และตนเชื่อว่าถ้าไม่มีพรรคพลังประชารัฐขึ้นมาในอนาคต โอกาสที่จะเกิดความขัดแย้งเช่นนี้ก็จะมีอีก ดังนั้นตนจึงอยากจะเข้ามาทำการเมืองในรูปแบบใหม่ที่จะไม่มีการโจมตีซึ่งกันและกัน

นายสุริยะฯ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐเพิ่งเริ่มตั้งมาไม่นานแต่ถึงตอนนี้ก็ถูกโจมตีกล่าวหาสารพัด ตัวอย่างเช่น กล่าวหาว่าพรรคพลังประชารัฐเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ กกต. ในการจัดการเลือกตั้งทั้งๆที่พรรคพลังประชารัฐอยากจะให้มีการเลือกตั้งเร็วที่สุด และพร้อมอย่างเต็มที่ด้วย ฉะนั้นถ้ามีการเลือกตั้งในวันนี้ สิ่งที่ผมอยากจะแสดงให้เห็นว่า พรรคพลังประชารัฐไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับทาง กกต. ยกตัวอย่าง เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา กกต.ได้มีมติออกมาว่า ให้ไปตรวจสอบเรื่องของนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ ที่ได้เป็นรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ มีการถือหุ้นสัมปทานจนในขณะนี้ต้องส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ถ้า กกต. เป็นพวกพรรคพลังประชารัฐ เขาคงไม่ทำแบบนี้ นี่คือสิ่งที่ตนคิดว่า อยากให้การเมืองเลิกสักทีก็คือ การกล่าวหาซึ่งกันและกัน สิ่งที่ควรจะทำก็คือทุกพรรคควรจะเสนอนโยบายว่า เลือกตั้งครั้งหน้า หลังจากได้รับเลือกตั้งมาจะทำอะไรให้กับพี่น้องประชาชนในกรุงเทพฯเองก็ดี ในต่างจังหวัด เช่น ภาคอีสาน , ภาคเหนือ เพราะแต่ละภาค ความต้องการของพี่น้องประชาชนก็แตกต่างกันไป และตนเชื่อมั่นว่าพรรคพลังประชารัฐจะเป็นทางออกของประเทศได้แน่นอน โดยเฉพาะว่าถ้าประชาชนให้การสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐให้ได้เข้ามามีเสียงมากพอสมควรการจัดตั้งรัฐบาล การจะทำตามนโยบายของพรรคก็จะเป็นไปด้วยความราบรื่น เรียบร้อย แต่ถ้าได้คะแนนเสียงไม่มากพอก็ต้องเกรงใจพรรคร่วมรัฐบาล ฉะนั้นการจะทำตามนโยบายของพรรคก็จะไม่ได้ง่าย

นายสุริยะฯกล่าวว่าตนในฐานะประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสานได้ลงพื้นที่พบกับชาวบ้านมาเป็นเวลาพอสมควรก็ได้รับเสียงตอบรับกลับมาเป็นอย่างดีโดยเฉพาะ รัฐบาลชุดปัจจุบันได้ทำในหลายสิ่งหลายอย่างที่ถูกใจพี่น้องชาวภาคอีสานทั้งนโยบายช่วยสนับสนุนชาวนาจนขณะนี้ราคาข้าวหอมมะลิ พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ตนลงพื้นที่พบว่า ราคาข้าวจาก 18,000 บาท เป็น 20,000 บาทแล้ว ซึ่งภาคอีสานได้รับประโยชน์จากตรงนี้ไปเต็มๆ อีกเรื่องคือ เรื่องของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งบัตรนี้เองก็ช่วยทำให้พอประทังให้ประชาชนภาคอีสานที่ยังมีรายได้น้อยก็ยังสามารถไปช่วยประทังทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น สิ่งเหล่านี้ที่พรรคฯจะนำมาต่อยอดจากผลงานที่รัฐบาลได้ทำไว้ แล้วเราจะทำต่อไปก็คือว่า จะทำอย่างไรที่จะมีการสร้างงานให้พี่น้องชาวอีสาน ถ้าเรามีการสร้างงานโดยให้ภาคอุตสาหกรรมมาตั้งอยู่ในภาคอีสานพี่น้องชาวอีสานเองก็จะได้มีงานทำ ไม่จำเป็นต้องจากเมืองเข้าไปอยู่ในกรุงเทพฯ หรือภาคตะวันออก และต้องจากลูกจากเมียไป บางคนก็ต้องฝากลูกไว้ให้ญาติช่วยเลี้ยงดู ซึ่งก็จะขาดความอบอุ่น แต่ถ้าเราสามารถมีโรงงานมาตั้งอยู่ภาคอีสานได้ ชาวอีสานก็ไม่จำเป็นต้องจากพื้นที่ของตัวเองไปอยู่กับบ้าน อยู่กับครอบครัวถึงแม้จะมีรายได้น้อยไปบ้าง แต่ว่าถ้าไปทำงานกรุงเทพฯ ค่าครองชีพก็แพง แล้วก็ต้องเสียค่าเช่า เจอฝุ่นละอองอีก แต่ถ้ามาอยู่ที่บ้านตัวเอง ค่าครองชีพก็ถูก รายได้ที่เหลือก็จะเป็นกอบเป็นกำ

ส่วนที่การจะสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ฯให้ควรจะนั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่นั้น ตนคิดว่า ตอนนี้พลเอกประยุทธ์ฯ นายกรัฐมนตรีก็ยังไม่ได้แสดงจุดประสงค์ว่า จะทำการเมืองต่อไปหรือไม่ ในส่วนพรรคฯเองทางผู้บริหารพรรคฯก็คิดว่า ถ้านายกฯไม่ปฏิเสธก็จะเป็นหนึ่งในทางเลือกที่พรรคฯจะเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีในนามของพรรคฯ แต่ก็ไม่ทราบว่าพลเอกประยุทธ์ฯจะตอบรับหรือไม่ ส่วนหน้าตารัฐบาลชุดต่อไปจะเป็นรัฐบาลผสมหรือไม่ ตนเชื่อว่า รัฐธรรมนูญที่ออกแบบมา เพราะว่าในอดีตเคยมีพรรคใดพรรคหนึ่งได้คะแนนเสียงมากแล้วก็กลายเป็นใช้เสียงข้างมาก โดยไม่ฟังพรรคที่มีเสียงข้างน้อยทำให้เกิดวิกฤตหลายครั้ง จนที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็เลยพยายามจะให้มีระบบให้นับทุกคะแนนของพรรคที่มีเสียงส่วนน้อยก็จะได้มีการจัดสรรปาร์ตี้ลิสต์ไปให้ ซึ่งโดยระบบนี้ก็จะทำให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งจะได้เสียงเกินครึ่งคงจะยากลำบาก เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะได้รัฐบาลผสมก็จะมีมาก ซึ่งก็เป็นผลดีที่ว่า ต่างคนต่างก็ได้จะระดมความคิดที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

นายสุริยะฯกล่าวถึงช่วงนี้มักจะถูกโจมตีอย่างหนักจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยนั้น ตนเคยบวชเป็นพระ ฉะนั้นอันนี้เรารู้ว่าเรื่องนี้เราสามารถรู้ว่าเรื่องนี้ไม่จีรังก็ไม่เป็นไร และประชาชนเขาก็เบื่อที่จะฟัง และพรรคพลังประชารัฐเราพร้อมที่จะทำงานร่วมกับพรรคการเมืองทุกพรรค ทั้งหัวหน้าพรรคฯ เลขาพรรคฯ ได้บอกแล้วว่า มีความยินดีที่จะร่วมมือกับทุกพรรคการเมือง แต่ว่าให้ผลการเลือกตั้งออกมาก่อน เราคงไม่ไปเกี่ยงงอนว่า ไม่เอาพรรคนั้น พรรคนี้ ถ้าพรรคการเมืองมาตั้งเงื่อนไขอย่างนี้แล้วก็จะทำให้กลับไป ประเทศชาติไม่มีทางออก ในฐานะประธานยุทธศาสตร์อีสาน เดินมามากแล้วตอนนี้พี่น้องประชาชนคำตอบรับในพื้นที่ยิ่งวันยิ่งดีขึ้น เพราะฉะนั้นตัวเลขกว่า 60 ที่นั่งทั้ง ส.ส.เขตรวมปาร์ตี้ลิสต์ยังยืนยันว่าภาคอีสานสามารถทำได้ และจากการลงพื้นที่ได้รับฟังเสียงพี่น้องประชาชนความต้องการส่วนใหญ่เป็นเรื่องใดมากที่สุด คือ สิ่งแรกก็คือเรื่องของอยากให้ราคาพืชผลการเกษตร ราคาข้าวได้ราคาดี แล้วถ้าเป็นไปได้ก็ให้มีแหล่งน้ำ แล้วสิ่งที่พอตนเสนอว่าจะมีการสร้างโรงงาน พบว่ามีเสียงตอบรับที่ดีมากๆ

นายสุริยะฯกล่าวถึงการประกาศว่าจะยุติบทบาททางการเมืองหากพรรคพลังประชารัฐไม่ได้รับเลือกตั้ง ส.ส.ใน จ.ขอนแก่น และจ.อุบลราชธานีนั้นว่า ตนดูแล้วว่า ยังไงมั่นใจว่า ขอนแก่นและจ.อุบลราชธานี ถ้าไม่ได้ ส.ส.แม้แต่คนเดียว ตนก็คิดว่า ตนในฐานะที่ดูแลทางด้านภาคอีสานก็จะพิจารณาตัวเอง ส่วนการจะฝากอะไรถึงนายอดิศร เพียงเกษ พรรคเพื่อไทยที่อดีตเคยรักใคร่กันมากนั้น ตนคิดว่าที่นายอดิศรฯบอกว่าตนยังสติดีอยู่หรือเปล่าและเป็นเรื่องที่ตนเพ้อฝันว่าจะมี ส.ส.เข้ามาจาก จ.ขอนแก่นทั้งหมด จะยกจังหวัด อีกทั้งยังกล่าวหาตนเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น ตนเองก็อยากจะบอกว่า สติปัญญาผมตรงนี้ยังสมบูรณ์อยู่ แต่สำหรับนายอดิศรฯ เองผมไม่ถือสาท่านหรอก แต่อยากเตือนความจำท่านว่า ตอนที่พรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้งครั้งที่สอง ผมเป็นคนเสนอให้อดีตนายกฯทักษิณฯ ให้ทางท่านอดิสร และท่านภูมิธรรมฯมาเป็น รมต.ช่วยกระทรวงคมนาคม ซึ่งในช่วงนั้นเราทำงานกันอย่างเป็นทีม และมีความสุขกับการทำงาน เพราะได้ทำในสิ่งที่กระทรวงคมนาคมสามารถตอบสนองในสิ่งที่ที่ประชาชนต้องการ โดยเฉพาะถนนหนทางที่สร้างมาหลายๆเลนในภาคอีสานก็เกิดจากนโยบายกระทรวงคมนาคมในสมัยนั้น เราสามารถผลักดันจนสนามบินสุวรรณภูมิสร้างเสร็จเรียบร้อย

“ สิ่งเหล่านี้เป็นการร่วมมือกันระหว่างผมกับ รัฐมนตรีช่วย พอรัฐบาลเราถูกปฏิวัติไปผมก็ได้เจอท่านอดิศรฯน้อยมาก แต่ว่าท่านอดิศรฯก็ไปเล่นกอล์ฟกับพี่ชายผม ซึ่งพี่ชายผมก็มาบอกว่าท่านอดิศรฯฝากความคิดถึงมาถึงผมเสมอ ผมเองก็เลยไม่เข้าใจว่าเพียงแต่ตอนนี้ผมอยู่คนละพรรคกับท่านทำไมท่านถึงได้เปลี่ยนไปถึงขนาดนี้ ซึ่งผมเองรู้สึกเสียดายที่ท่านได้เคยพูดไว้กับผมกับพี่ชายผม ซึ่งเสียดายภาพของท่านอดิศรฯที่ผมเคยเลื่อมใส แต่อย่างไรก็แล้วแต่ผมเองก็ไม่ถือสาท่าน แล้วในที่สุดคนที่รู้ข้อเท็จจริงจะตัดสินว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร สำหรับอีกเรื่องที่ให้ความเห็นว่าเรื่องที่ขอนแก่นจะมีส.ส.ยกจังหวัด เรื่องนี้ผมไม่ได้เป็นคนประเมินเอง แต่ว่าพื้นที่คุณเอกราช ช่างเหลา ซึ่งดูแลพื้นที่นี้อยู่ก็เห็นว่าแนวโน้มของประชาชนภาคอีสานโดยเฉพาะจังหวัดขอนแก่นที่อยากจะเปลี่ยนพรรคใหม่ เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง ผมจึงคิดว่าเราน่าจะได้ ส.ส.ยกจังหวัด โดยผมคิดว่าทางคุณอดิศรฯในใจลึกๆก็คงจะคิดอย่างนั้นเหมือนกัน เพราะไม่ฉะนั้นท่านคงไม่หนีไปลงปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคเพื่อไทยหรอก “

นายสุริยะฯกล่าวในตอนท้ายว่า ตนอยากจะขอฝากให้พี่น้องประชาชน อยากให้ลองพิจารณาพรรคพลังประชารัฐเป็นทางเลือกอันหนึ่งเพื่อให้ประเทศของเรา ก้าวพ้นความขัดแย้งไปสู่ความสำเร็จ เมื่อความสำเร็จสุขกลับมา การท่องเที่ยว เศรษฐกิจ ทางด้านสังคมก็จะดีขึ้น คนไทยก็จะมีความสุข ส่วนถ้าพรรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาล สิ่งแรกที่จะทำคืออะไร สิ่งแรกคือทำตามนโยบายที่เราสัญญา กับประชาชน ซึ่งในขณะนี้ทางคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคกำลังทำในเรื่องต่างๆที่เป็นนโยบายหลักๆของเรา เราจะต้องเอานโยบายที่ไปพูดกับประชาชนกลับมาทำ นายสุริยะฯกล่าว

related