กกต.เผยมีแค่ 2 พรรคเก่าส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ นอกนั้นขาดคุณสมบัติ

นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวชี้แจงเรื่องพรรคการเมืองที่มีสิทธิในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ จะต้องมีลักษณะ 1.เป็นพรรคการเมืองที่จัดตั้งหรือเป็นพรรคการเมืองตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2550 และต้องปฏิบัติตามกฎหมาย โดยต้องจัดให้มีเงินทุนประเดิมจำนวน 1 ล้านบาท และแจ้งให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบ 2. ต้องจัดให้มีสมาชิกซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 24 จำนวนไม่น้อยกว่า 500 คน ชำระค่าบำรุงพรรคการเมือง และให้พรรคการเมืองแจ้งให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบ รวมทั้งจัดประชุมใหญ่เพื่อแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับคำประกาศอุดมการณ์ทางการเมืองและนโยบายของพรรคการเมืองให้ถูกต้องตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 และให้สอดคล้องกับ พ.ร.ป. ส.ส. 2561 3. ต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมือง และ4.จัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งหัวหน้าพรรคการเมือง เลขาธิการพรรคการเมือง เหรัญญิกพรรคการเมือง นายทะเบียนสมาชิก และกรรมการบริหารอื่นของพรรคการเมือง ตามข้อบังคับพรรคการเมือง ที่ได้แก้ไขใหม่พร้อมทั้งแจ้งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบภายใน 15วัน นับแต่วันที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมือง

นายแสวง กล่าวว่า ในระหว่างเวลาที่พรรคการเมืองยังปฏิบัติตาม4 ข้อ ไม่ครบถ้วน จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ได้ ส่วนพรรคการเมืองที่จัดตั้งตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 สามารถส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ทันที ซึ่งขณะนี้มีพรรคการเมืองที่จัดตั้งหรือเป็นพรรคการเมือง ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2550 ดำเนินการครบถ้วน 4 ข้อ เพียง 2 พรรคการเมืองเท่านั้น ดังนั้นจึงขอให้พรรคการเมืองที่จัดตั้งตามกฎหมายเก่าคือ ตามกฎหมาย 2550 และต้องการจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ดำเนินการให้ครบทั้ง4ข้อ และต้องแจ้งให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบด้วย จึงจะมีสิทธิส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้

นอกจากนั้น หากพรรคการเมืองที่ประสงค์ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ต้องจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดอย่างน้อย 1 แห่งในจังหวัดนั้น ตามมาตรา 145 แห่ง พรป. พรรคการเมือง 2560 ด้วย