นายกฯ กำชับงดติดเครื่องยนต์ระหว่างจอดรถรอในทำเนียบ

ภาพของรถยนต์ติดตามขบวนรัฐมนตรี และ ผู้เข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ติดเครื่องยนต์รอเป็นเวลานาน ทั้งที่วานนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะออกแถลงการณ์สถานการณ์ปัญหาฝุ่นละออง โดยหนึ่งในมาตรการเร่งด่วน คือ “รณรงค์ไม่ให้ติดเครื่องยนต์ขณะจอดในสถานที่ราชการ โรงพยาบาล โรงเรียน และพื้นที่ที่มีมลพิษสูง” ทำให้สื่อมวลชนตั้งข้อสังเกตว่า การจอดรถติดเครื่องเอาไว้ขัดต่อมาตรการที่ออกมาหรือไม่

นายกรัฐมนตรีทราบเรื่องแล้ว และย้ำในที่ประชุม ครม. ว่า ไม่ให้ทำ เนื่องจากมีกลิ่นเหม็น เปลืองน้ำมัน และทำให้เครื่องยนต์เสื่อมสภาพ ซึ่งได้ทำเป็นตัวอย่างไว้แล้ว

นอกจากนี้ยังมีรถหลายหลายประเภทที่ติดเครื่องไว้เป็นเวลานาน เช่น รถแท็กซี่ รถสาธารณะ และรถขนส่งมวลชน แต่หากจะต้องหยุดทั้งหมด ก็คงเป็นไปไม่ได้จึงต้องหามาตรการที่เหมาะสม ในระหว่างนี้ก็ต้องไม่ติดเครื่องยนต์เร็วจนเกินไปก่อนออกเดินทาง หากมีการกำหนดบทลงโทษ ก็จะยุ่งกันไปใหญ่ ส่วนกรณีมีการเผยแพร่ภาพที่บริเวณโรงงานมักกะสัน มีช่างกำลังซ่อมแซมรถโดยสาร โดยใช้แก๊สเผาสีด้านนอกจนเกิดควัน การรถไฟชี้แจง ว่า เป็นภาพของช่างซ่อมจากบริษัทเอกชน ที่ว่าจ้างมาปรับปรุงสภาพภายนอกของรถโดยสารให้มีคุณภาพดีขึ้น นอกจากนี้การซ่อมมีขึ้น 4 ปีครั้ง และ เดือนหนึ่งซ่อมแซมไม่ถึงสิบคัน โดยเฉลี่ยคันหนึ่งจะใช้เวลาลอกสีประมาณ 2-3 ชั่วโมง และรถโดยสารบางส่วนก็มีการกระจายนำไปซ่อมแซมตามโรงงานต่างจังหวัดอื่นๆ อีกด้วย

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังคงไม่ยอมที่จะให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลมวลชน เป็นวันที่ 6 แล้ว แม้สื่อจะพยายามสอบถามถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เกินค่ามาตรฐาน แต่พล.อ.ประวิตร ยังคงมีสีหน้าทีาเรียบเฉย

 พลโทคงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พลเอกประวิตร สั่งการให้หน่วยงานในกำกับของกระทรวงกลาโหมและทุกเหล่าทัพ สนับสนุนรัฐบาลในการเร่งแก้วิกฤติมลภาวะฝุ่นละอองในกรุงเทพ โดยในระยะเร่งด่วนให้นำเครื่องมือและยุทโธปกรณ์ที่มีมาปรับใช้เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า พร้อมทั้งให้คิดค้น ทดลองหาแนวทางในการลดภาวะฝุ่นละอองควบคู่กัน