svasdssvasds

ลุยต่อไม่รอแล้วนะ...."สุริยะ- สมศักดิ์ -อนุชา" เปิดตัวผู้สมัครกาฬสินธุ์ ชู นโยบาย “โคบาลประชารัฐ -พักหนี้ประชาชน 3 ปี”

ลุยต่อไม่รอแล้วนะ...."สุริยะ- สมศักดิ์ -อนุชา" เปิดตัวผู้สมัครกาฬสินธุ์ ชู นโยบาย “โคบาลประชารัฐ -พักหนี้ประชาชน 3 ปี”

แกนนำพรรคพลังประชารัฐ เดิหน้าหน้าเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. จังหวัดกาฬสินธุ์ ทั้ง 5 เขต เผยกระแสเหนือ อีสาน ยังแรง พร้อมเผยกลยุทธ์ ชูนโยบายที่ดีกว่าพรรคเพื่อไทย

เมื่อวันที่ 23 ม.ค. แกนนำพรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นายอนุชา นาคาศัย ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ภาคกลาง และนายเอกราช ช่างเหลา กรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งจังหวัดขอนแก่น ทำกิจกรรมลงพื้นที่ภาคอีสาน ที่อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. จังหวัดกาฬสินธุ์ ทั้ง 5 เขต คือ นายฉลอง ฆารเลิศ เขต 1 นายชานุวัฒน์ วรามิตร เขต 2 นายจำลอง ภูนวนทา เขต 3 ดร.สิทธิศักดิ์ พัฒนชัย เขต 4 และนายนิพนธ์ ศรีธเรศ เขต 5

โดยนายสมศักดิ์ ขึ้นเวทีปราศรัยว่า พรรคพลังประชารัฐ ได้กำหนดนโยบายโคบาลประชารัฐ เป็นนโยบายหลัก ที่จะต้องทำให้กับประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะภาคอีสานเท่านั้น แต่จังหวัดอื่นๆก็สามารถดำเนินการได้ ส่วนข้อกังวลในการแจกวัวพร้อมกันทั่วประเทศ ต้องบอกว่าการแจกพร้อมกันทั่วประเทศคงเป็นไปไม่ได้ เพราะแม่พันธุ์วัวต้องจัดหา เนื่องจากจะไม่พยายามนำมาจากที่อื่น ตรงนี้เป็นเรื่องต้องค่อยเป็นค่อยไป ส่วนตัวมั่นใจว่า สามารถเป็นอาชีพเสริม และพัฒนาเป็นอาชีพหลักได้

ขณะที่ นายสุริยะ ปราศรัยว่า เวลานี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ความยากจน จากความวุ่นวายที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อปากท้องของประชาชน โดยแนวคิดนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ จึงเป็นการช่วยเหลือประชาชนและถ้าเลือกพลังประชารัฐ ก็จะทำทุกทางในการพักหนี้ให้ประชาชน 3 ปี โดยไม่เสียดอกเบี้ย

จากนั้น นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า คะแนนนิยมในภาคเหนือ ดีกว่าทุกสมัยที่มีการเลือกตั้ง เพราะประชาชนมีความเข้าใจ ดังนั้นวันนี้ไม่มีพรรคการเมืองหลักที่ยึดภาคเหนือเหมือนเดิมแล้ว เนื่องจากการเมืองในภาคเหนือเปลี่ยนแปลงไปมาก ตนเชื่อว่าในภาคเหนือเราจะได้ผู้แทนจำนวนมาก เพราะผู้สมัครที่ตอนแรกคิดว่าจะไม่ได้รับชัยชนะ แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปหลายเขตทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น ส่วนที่มีการมองว่ากระทรวงมหาดไทยออกคำสั่งมาทำให้ พวกตนได้เปรียบนั้น ยืนยันว่ากระทรวงมหาดไทยออกคำสั่งแต่ละฉบับดูเหมือนเราเสียเปรียบด้วยซ้ำไป แต่เราไม่คิดเรื่องการได้เปรียบเสียเปรียบ และจะไม่โอดครวญ แต่จะอดทนเดินหน้าสู้เป้าหมาย

ขณะที่ นายสุริยะ ให้สัมภาษณ์ว่า การลงพื้นที่ภาคอีสาน 3 วันที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากประชาชน ทำให้เห็นได้ชัดว่าคะแนนนิยมดีค่อนข้างมาก ส่วนที่พรรคเพื่อไทย เจ้าของพื้นที่เร่งลงพื้นที่เช่นกันนั้น ตนคิดว่าเพื่อไทย เป็นที่ชื่นชอบของภาคอีสานมาตลอด แต่สิ่งที่พรรคพลังประชารัฐต้องทำคือ เสนอนโยบายที่ดีกว่าพรรคเพื่อไทย และสามารถตอบสนองชาวอีสานได้ดีกว่า และตอนนี้ความพร้อมในภาคอีสานของเรา ต้องบอกว่าเราได้ทำตามข้อกำหนดรัฐธรรมนูญ ต้องตั้งสาขาพรรค มีตัวแทน โดยทั้ง 2 อย่าง พลังประชารัฐ เสนอให้กกต.ครบแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีถูกประเมินว่าพลังประชารัฐ ไม่ได้ส.ส.ตามที่ตั้งเป้าไว้ นายสุริยะ กล่าวว่า การที่มีคนมาประเมิน ทำให้ต้องทำงานหนักขึ้น ทั้งผู้บริหารพรรค ผู้สมัคร ต้องลงพื้นที่ และอธิบายประชาชนว่าพรรคพลังประชารัฐ สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างไร ซึ่งถือเป็นการเตือนให้ต้องทำงานหนักขึ้นและไม่ประมาท

“การถูกโจมตี ไม่ได้ทำให้ผมท้อ เพราะที่ตัดสินใจมาเล่นการเมืองอีกครั้ง ก็เพื่อต้องให้ประเทศ สามารถก้าวข้ามความขัดแย้ง ซึ่งเมื่อมีเสียงโจมตีก็ไม่ท้อ และทำให้มีกำลังใจทำงานหนักมากขึ้น” นายสุริยะ กล่าว

เมื่อถามว่า มองยังไงที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สมาชิกพรรคเพื่อไย ประกาศฝ่ายประชาธิปไตยต้องได้ส.ส. 375 คน นายสุริยะ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย พยามยามโจมตีพรรคพลังประชารัฐว่าสนับสนุนเผด็จการ แต่ข้อเท็จจริงประชาชนทราบดีว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาเกิดจากพรรคเพื่อไทย เสนอพรบ.นิรโทษกรรมสุดซอย ทำให้ประชาชนต่อต้าน และเกิดวิกฤติการเมือง เศรษฐกิจเสียหาย พล.อ.ประยุทธ์ จึงจำเป็นต้องออกมาเพื่อให้ประเทศ สู่ความสงบ และเมื่อสงบแล้ว ก็คืนประชาธิปไตยให้ ซึ่งยืนยันฝ่ายตนเอง ก็อยู่ฝ่ายประชาธิปไตย

related