พรรคไทยรักษาชาติ มีหนาวเสี่ยงถูกยื่นยุบพรรคเหตุกระทำขัดต่อกฎหมาย พรรคการเมือง พ.ศ.2560 และกฎหมายเลือกตั้ง อาจถึงขั้นลามไม่มีการเลือกตั้ง
ภายหลังจากที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชโองการ กรณีพรรคไทยรักษาชาติ เสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นบัญชีนายกของ ว่า เป็นการกระทำมิบังควร ที่ดึงเอาพระราชวงศ์มาเกี่ยวการเมือง ขัดต่อโบราณราชประเพณี ขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ
ซึ่งกรณีดังกล่าวมีการวิเคราะห์ว่า อาจมีผู้นำเรื่องนี้ไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดการยุบพรรคไทยรักษาชาติ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย พ.ร.ป.พรรคการเมือง พ.ศ.2560
ใน มาตรา ๙๒ เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทําการ อย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น
(๑) กระทําการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอํานาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ ในรัฐธรรมนูญ
(๒) กระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข...
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญดําเนินการไต่สวนแล้ว มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองกระทําการ ตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมือง และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น
รวมถึงยังขัดต่อ ระเบียบกกต.ว่าด้วยหาเสียงและข้อห้าม ในข้อ 17. คือ ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใด นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง
นอกจากนี้ ยังมีการมองว่า การดำเนินการของพรรคไทยรักษาชาติ ครั้งนี้อาจลุกลามไปจนขึ้นต้องระงับ หรือ เพิกถอนการเลือกตั้งทั่วไป ที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม นี้
เพราะหลายปัจจัย อาทิ
1) เหตุแห่งความมั่นคงของสถาบัน
พระมหากษัตริย์
ตามมาตรา 1-25 แห่งกฏหมายรัฐธรรมนูญปกครองราชอาณาจักรไทย
พ.ศ.2560
2) เหตุแห่งความมั่นคงของรัฐ
ความสงบเรียบร้อย
ตามพระราชบัญญัติความมั่นคง
3) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
ว่าด้วย 3.1 กกต.
3.2 การได้มาซี่ง ส.ส.
3.3 พรรคการเมือง
4) ระเบียบ กกต.
ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.
พ.ศ.2561 หมวดที่ 4
ลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง
ข้อที่ 17
ห้ามผู้สมัคร ส.ส.
พรรคการเมือง
หรือผู้ใดนำ
สถาบันพระมหากษัตริย์
มาเกี่ยวข้อง