เลือกตั้ง 62 : เปิดเบื้องลึก "ไทยรักษาชาติ" พันธมิตรแห่งเพื่อไทย

“พรรคไทยรักษาชาติ” เป็นพรรคที่แกนนำภายในพรรควางตัวกันอย่างชัดเจนว่า “พรรคไทยรักษาชาติ” คือ เครือข่าย และพันธมิตรของพรรคเพื่อไทยในสนามเลือกตั้ง โดยมีการจัดสรรคนของเพื่อไทย ทั้งระดับแกนนำ, อดีต ส.ส.เพื่อไทย, นักการเมืองรุ่นใหม่ รวมถึงผู้ขอลงสมัคร ส.ส.เพื่อไทยที่หน่วยก้านดีพอไปวัดไปวาได้ (ลงในนามเพื่อไทยไม่ได้ ติดปัญหาเรื่องพื้นที่เขตเต็ม) จึงให้ย้ายออกไปอยู่กับไทยรักษาชาติจำนวนหนึ่ง

แรกเริ่มเดิมทีนั้น พรรคไทยรักษาชาติ ก่อตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550 เป็นลำดับที่ 11/2552 เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ.2552 ในชื่อ "พรรครัฐไทย" โดยมี นายเอกสิทธิ์ เจาฑานนท์ และนายศิรเมศร์ เสถียรรุจิกานนท์ เป็นหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคคนแรก

ถัดมาในปี 2553 ได้มีการปรับเปลี่ยน “พรรครัฐไทย” เป็น “พรรคไทยรวมพลัง” กระทั่ง ตุลาคม 2561 ที่ประชุมมีมติให้เปลี่ยนแปลงชื่อพรรคเป็น "พรรคไทยรักษาชาติ" พร้อมกับเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค อุดมการณ์พรรค และนโยบายของพรรค

การก่อตั้ง “พรรคไทยรักษาชาติ” นั้น มีเป้าหมายชัดเจนในสนามการเมืองว่า ต้องกวาดคะแนนเสียง และกวาดเอาที่นั่ง ส.ส.ให้ได้มากที่สุด เพื่อจะได้ชดเชยกรณีที่เพื่อไทยอาจได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์น้อยลง และเมื่อศึกเลือกตั้งเสร็จสิ้น ก็ให้มาจับมือกับเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล

7 พ.ย.ปีที่ผ่านมา ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ พรรคไทยรักษาชาติ ได้จัดประชุมใหญ่วิสามัญพรรคครั้งที่ 1/2561 เพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรค เลือกหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค เลือกกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง และเปลี่ยนแปลงที่ทำการพรรค ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีสมาชิกที่ล้วนเป็นกลุ่มเครือข่ายใกล้ชิดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และกลุ่มคนรุ่นใหม่เครือข่ายใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้าร่วมจำนวนมาก

โดยกลุ่มใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์และเครือญาติ อาทิ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีต ส.ส.ขอนแก่น น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ บุตรสาวนางเยาวเรศ ชินวัตร น้องสาวนายทักษิณ นายวิม รุ่งวัฒนจินดา อดีตเลขานุการ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.สุทิษา ประทุมกุล เลขานุการส่วนตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายฤภพ ชินวัตร บุตรชายนายพายัพ ชินวัตร อดีตประธาน ส.ส.ภาคอีสาน พรรคเพื่อไทย

จากนั้นที่ประชุมมีมติเลือก ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช เป็นหัวหน้าพรรค เมื่อมีการถาม ร.ท.ปรีชาพล ว่า นโยบายจะคล้ายกับเพื่อไทย หรือไทยรักไทยหรือไม่? ร.ท.ปรีชาพลตอบว่า คนฉลาดจะไม่ปฏิเสธนโยบายในอดีตที่ประสบความสำเร็จ เกิดมาจากประชาชน อยู่ฝ่ายประชาธิปไตยมาตลอด สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยทำคือดูถูกประชาชน วันนี้ไทยรักษาชาติพร้อมคุยกับทุกฝ่าย แต่พร้อมทำงานกับฝ่ายประชาธิปไตยเท่านั้น

ปลายเดือน พ.ย.61 ความเคลื่อนไหวของพรรคไทยรักษาชาติ อันเป็นสาขาของพรรคเพื่อไทยนั้น ที่ประชุมได้แต่งตั้ง นายจาตุรนต์ ฉายแสง เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของพรรค รวมถึงการทำนโยบายด้านต่างๆ

ล่าสุด บัญชีปาร์ตี้ลิสต์ ไทยรักษาชาติ ได้จบลงไปแล้ว แต่ที่ยังไม่สะเด็ดน้ำและน่าจับตามองอย่างยิ่งก็คือ รายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของไทยรักษาชาติยังไม่จบ เพราะไทยรักษาชาติมีการปรับแผนว่า จะส่งชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงแค่ชื่อเดียว และได้เคาะชื่อออกมาแล้ว แต่กำลังรอให้ที่ประชุมกรรมบริหารพรรคมีมติออกมา ก่อนแถลงอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 ก.พ.นี้

ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติคนนี้ หากทางพรรคได้เปิดชื่อออกมาแล้ว รับรองว่าฮือฮากันทั้งประเทศ

ช่วงที่ผ่านมา พรรค ทษช.ได้ปล่อยคลิปวิดีโอผ่านจอแอลอีดีขนาดใหญ่ เพื่อนำเสนอนโยบายของพรรคบางส่วน โดยกระจายตามจุดต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ มากถึง 53 จุด

ซึ่งทางคณะกรรมการด้านนโยบายพรรคได้คิดค้นนโยบาย แก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้อย่างตรงจุด ภายใต้แนวคิด “คิดใหม่ ทำใหม่ กล้าเปลี่ยนแปลง” พร้อมทั้งนำเสนอนโยบายต่างๆ ที่เคยทำสำเร็จมาแล้วในอดีต ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ดังนี้

ต่อยอด 30 บาท รักษาทุกโรค ด้วยเทคโนโลยีและแนวคิดใหม่ ต่อยอด OTOP ด้วยเทคโนโลยีและแนวคิดใหม่ ต่อยอด SMEs ด้วยเทคโนโลยีและแนวคิดใหม่