ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
เมื่อเวลา10.35น. ผู้สื่อข่าวรายงานจสกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ว่านายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรค นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะทำงานณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรค นายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานเศรษฐกิจ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นพ.เหวง โตจิราการ สมาชิกพรรค เดินทางมาถึงที่ทำการพรรคพร้อมกัน
นายจาตุรนต์ กล่าวสั้นๆ ว่า “ขอปรึกษาหารือกันก่อน แล้วเดี๋ยวจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง” ต่อมาเวลา11.20น. บุคคลข้างต้นทั้งหมดได้ร่วมกันนั่งแถลงข่าว
โดยนายจาตุรนต์ กล่าวว่า ที่มาหารือวันนี้เรามาในฐานะสมาชิกพรรค ทุกคนยังเป็นผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ยังมีหน้าที่ต่างๆอยู่ ที่ถามว่าวันนี้พวกตนเข้าพรรคทำไมนั้น เมื่อพรรคกำลังเผชิญปัญหาเราต้องร่วมกันคิดเพื่อแก้ไขอย่างเต็มความสามารถ เราติดตามสถานการณ์โดยตลอดตั้งแต่มีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯในนามพรรคด้วยความห่วงใย จากการรับฟังการแถลงของกรรมการบริหารหลายครั้งหลังวันที่ 8 ก.พ. เห็นว่าทุกคนมีเจตนาดีทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ
“แต่เมื่อสถานการณ์มาถึงขั้นที่ศาลกำลังจะพิจารณาจะรับเรื่องยุบพรรคหรือไม่นั้น และดูจากข้อกล่าวหาที่บอกเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เมื่อเรื่องกำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของศาล เราจึงต้องรอการพิจารณาของศาลก่อน ดังนั้นการรณรงค์หาเสียง การปราศรัย รวมถึงการจัดกิจกรรมพบปะประชาชนจำนวนมากจะงดไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแทรกซ้อน ส่วนการดำเนินการในชั้นศาลเรามีช่องทางใดที่จะช่วยได้ ยืนยันว่าเราพร้อมช่วยและเต็มใจร่วมแก้ปัญหาของพรรคไปถึงที่สุด เรามีความผูกพันกับพรรค อยากให้พรรคเดินหน้าแก้ไขปัญหาประเทศปัญหาเศรษฐกิจและผลักดันประชาธิปไตย เป็นสิ่งที่เรายืนยันว่าเราตั้งใจให้เกิดประโยชน์ต่อบ้านเมืองและประชาชน “
เมื่อถามว่าการหยุดรณรงค์หาเสียงจะกระทบต่อความนิยมของพรรคหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่าเราดูเรื่องความเหมาะสมของสถานการณ์ ถ้าดูจากข้อกล่าวหาประเด็นที่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องละเอียดอ่อน การดำเนินการในลักษณะที่ต้องปราศรัยพบกับคนจำนวนมากไม่น่าจะเป็นผลดี และเราน่าจะต้องให้ความสำคัญกับการเตรียมการชี้แจงในกระบวนการ และขั้นตอนในศาลรัฐธรรมนูญ
“เชื่อว่า สิ่งที่พรรคทษช.ชี้แจงรณรงค์กับประชาชนตลอดช่วงที่ผ่านมาน่าจะเป็นความเข้าใจต่อประชาชน การจะหยุดจากนี้จึงไม่น่าจะเสียหายอะไร ขณะนี้ต้องแก้ปัญหาให้ตรงกับปัญหาก่อน ในระหว่างนี้เราจะเลือกใช้วิธีชี้แจงในกระบวนการยุติธรรม การพูดคุยชี้แจงกับประชาชนจะเกิดขึ้นหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีข้อยุติตัดสินแล้วเราจะไม่ใช้วิธีชี้แจงกับประชาชนระหว่างการพิจารณา
ส่วนกรณีที่ไม่ได้เดินทางไปยื่นชื่อแคนดิเดตนายกฯร่วมกับพรรคจะช่วยชี้แจงอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับว่าผมจะไปในสถานะไหน แต่จะชี้แจงเท่าที่ทำได้ให้เต็มความสามารถ เช่นการหารือกับกรรมการพรรคหลายท่านหลังวันที่ 8 ก.พ. ทราบว่าเป็นเจตนาดีต่อบ้านเมือง ส่วนอื่นๆที่เป็นเรื่องเฉพาะเป็นอำนาจของคณะกรรมการบริหารพรรค ผมไม่สามารถชี้แจงได้ ทั้งนี้การประกาศยุติการปราศรัยเวทีใหญ่นั้นไม่ใช่มติของพรรค แต่เป็นมติของผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ “
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าตั้งแต่เกิดเรื่อง นายจาตุรนต์ และนายณัฐวุฒิหายตัวไปจากพรรคเลย สะท้อนถึงการเกิดรอยร้าวในพรรคหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ไม่มีรอยร้าวอะไร เมื่อเกิดเรื่องขึ้นเราติดตามสถานการณ์ มีความห่วงใย การตัดสินใจต่างๆหลังจากนั้นเข้าใจว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรคโดยตรง รวมถึงการหาทนายความและผู้ที่จะมาชี้แจง ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรค ที่มาวันนี้มาเพื่อร่วมแก้ปัญหา สิ่งที่เราได้ชี้แจงไปคือการร่วมช่วยในการแก้ปัญหา และยืนยันว่าเราพร้อมที่จะร่วมแก้ปัญหา”
ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ในส่วนของผู้สมัครส.ส.ของพรรคที่ลงสมัคร 100 กว่าเขตยังคงมีสถานะเป็นผู้สมัคร มีพันธะผูกพันต้องทำงานให้กับประชาชน ต้องเดินหน้าพบปะประชาชนต่อไป เพียงแต่ทีมรุณรงค์หาเสียงจากส่วนกลางจะยุติภารกิจเพื่อรอให้สถานการณ์เดินไปจนได้ข้อสรุปจากศาลรัฐธรรมนูญก่อน เพราะเราอยากให้ทางพรรคมีสมาธิในเรื่องคดีความ
เมื่อถามว่า จากกรณีนี้นายณัฐวุฒิ และนายจาตุรนต์ จะยังอยู่ในตำแหน่งของพรรคต่อไปหรือไม่ นาณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนเป็นสมาชิกพรรคตอนเดินเข้ามาก็บอกกับพี่น้องประชาชนว่าภารกิจของเราคือนำพาบ้านเมืองกลับสู่ประชาธิปไตย เข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ภารกิจนี้ยังคงอยู่ไม่ว่าตนจะอยู่ในบทบาทหน้าที่ใดก็ตาม ขอยืนหยัดอยู่กับพรรคจนกว่าสถานการณ์จะได้ข้อยุติ ไม่ว่าจะในทางใดก็ตามสถานะความเป็นความสมาชิกพรรค ตนไม่สามารถที่จะทิ้งไปได้
เมื่อถามว่า เสียใจหรือไม่ที่ตัดสินใจมาอยู่พรรคนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สิ่งที่เดินหน้ามาวันนี้มีเจตนาเดียวคือนำพาบ้านเมืองกลับสู่แนวทางประชาธิปไตย สิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วไม่สามารถย้อนกลับไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เพราะมีที่มาและเหตุผลของมันอยู่แล้ว
ขณะที่นายจาตุรนต์ กล่าวว่า สิ่งที่เราดำเนินการมาเป็นไปตามที่เราตั้งใจ และได้ประกาศไว้ทุกอย่าง อย่างเต็มความสามารถ และได้รับความเข้าใจจากประชาชนที่เห็นด้วยและเข้าร่วมกับเรา ไม่มีอะไรที่รู้สึกเสียดาย ทั้งนี้ เมื่อเรื่องไปถึงศาลแล้วเราจะไม่แสดงความคิดเห็นนอกศาล ส่วนการแสดงความคิดเห็นอื่นๆที่เห็นว่าจำเป็นจะยังดำเนินต่อไป
เมื่อถามว่า เป็นการลอยแพพรรคหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวติดตลกว่า ไม่ได้เป็นการลอยแพ และไม่ใช่การมาพรรคครั้งสุดท้ายทั้งนี้ หลังจากการแถลงข่าวเสร็จสิ้นทุกคนที่ร่วมแถลงก็เดินทางออกจากพรรคทันที
////////////