3 พรรคการเมืองใหญ่ พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ เพื่อไทย เปิดปราศรัยครั้งแรก ซัดกันเละ พรรคพลังประชารัฐ ลุยเมืองกาญจน์ ชูสานนโยบาย รบ.หนุน "บิ๊กตู่" นั่งนายกฯ
วานนี้ 3 พรรคการเมืองใหญ่ คือ พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย และ พรรคประชาธิปัตย์ได้มีการเปิดปราศรัยใหญ่ครั้งแรก โดยในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ช่วง 17.00 น.วานนี้ ได้จัดปราศรัยที่ จ.กาญจนบุรี โดยมีการแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส. ท่ามกลางบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนในพื้นที่มาฟังการปราศรัยครั้งนี้กว่า 20,000 คน
ทั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐ ได้นำเสนอนโยบายเด่นๆ เช่น เพิ่มสิทธิ์การเข้าถึงและเพิ่มประโยชน์ของผู้ถือบัติสวัสดิการแห่งรัฐ นโยบายด้านราคาข้าว โดยข้าวเจ้าได้เกินตันละ 10,000 บาท ข้าวหอมมะลิตันละมากกว่า 15,000 บาท พร้อมค่าปลูกและเก็บเกี่ยว 2,000 บาท พักหนี้กองทุนหมู่บ้าน รวมถึงนโยบายมารดาประชารัฐ โคบาลประชารัฐ เป็นต้น
นายสนธิรัตน์ ระบุว่า กล่าวว่า 10 ปีที่ผ่านมา บ้านเมืองไม่สงบ เพราะมีคนอ้างประชาธิปไตย แล้วแบ่งแยกประชาชน ให้คนแตกแยกตีกัน อ้างเป็นประชาธิปไตย แต่ทำเพื่อใครบางคนบางกลุ่ม อย่างไรก็ตาม วันนี้มีบ้างพรรคการเมือง ที่ตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ในกรุงเทพ เชื่อว่าจะต้องด่าพรรคพลังประชารัฐแน่นอน เพราะกลัวว่าเราจะชนะการเลือกตั้ง ทั้งนี้ หากผลการเลือกตั้งเป็นเหมือนเดิม ประเทศก็จะกลับไปที่เดิม เราจึงอาสารวมตัวเข้ามา ก้าวข้ามความขัดแย้ง และจะทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้ายิ่งกว่าเดิม
นายสนธิรัตน์ ยังแสดงความมั่นใจว่า นโยบายของพรรคเป็นรูปธรรมและจับต้องได้มากที่สุด ทั้งนี้ พี่น้องต้องเลือกผู้แทนด้วย 1.ผู้สมัครที่มั่นใจได้ 2.พรรคที่จะเป็นเสาหลักดูแลประเทศไทยได้ 3.นายกรัฐมนตรีที่ดีซึ่งพรรคพลังประชารัฐเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ มั่นใจว่าเรามี 3 โจทน์นี้ที่ดูดีที่สุด หากคนกาญจน์ฯให้ความมั่นใจกับเรา เราจะสร้างให้จังหวัดกาญจนบุรี รุ่งเรืองในรัฐบาลหน้า
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ที่นำโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เปิดปราศรัยที่ศาลากลาง จ.ฉะเชิงเทรา โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวตอนถึงระหว่างปราศรัยถึงนโยบาย "เกิดปั๊บรับสิทธิ์เงินแสน" ของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ขณะนี้พรรคพลังประชารัฐเอง มีนโยบายให้เงินแสน รวมถึงพรรคเพื่อไทย ก็เพิ่งประกาศจะดูแลเช่นกัน ตนจึงอยากบอกว่า นโยบายเหล่านี้ เป็นนโยบายลอกเลียนแบบนั้น หรือเป็นเพียงการเกทับช่วงเลือกตั้ง เนื่องจากผู้ที่เสนอนโยบายจะต้่องชี้แจงได้ว่า ใช้งบประมาณจากส่วนไหน และที่ผ่านมากว่า 5 ปี ทำไมถึงไม่ทำ ดังนั้นจึงอยากให้ประชาชนดูว่านโยบายของใครเป็นของแท้หรือของเทียม
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึง กรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หัวหน้าทีมปราศรัยหาเสียงพรรคเพื่อไทย พาดพิงพรรคว่า ออกไปชุมนุมเพื่อให้ทหารปฏิวัติ นั้น ตนเชื่อว่า การที่ ประชาชนออกไปเดินนั้น ไม่ใช่เพราะอยากให้ทหารปฏิวัติ แต่เพราะต้องการออกไปขับไล่คนโกงต่างหาก
ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ได้เปิดปราศรัยใหญ่ ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ถือเป็นการปราศรัยใหญ่ครั้งแรกของพรรค และเป็นการเจาะฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยบรรยากาศก่อนเริ่มการปราศรัย มีประชาชนที่ให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ทยอยเดินทางจับจองพื้นที่เพื่อรับฟังการปราศรัยของกันนำพรรคเพื่อไทยกันอย่างคึกคัก ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หนึ่งในรายชื่อแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัย ถึงปัญหาเศรษฐกิจ ว่าแก้ปัญหาต้องมีสามอย่าง คือ เข้าใจอนาคต เข้าใจประชาชน เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง และเข้าใจวิธีทำ พร้อมยกตัวอย่าง โครงการรักษาสามสิบบาทรักษาทุกโรค ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า พรรคเพื่อไทยมองเห็นอนาคต ขณะที่ก่อนหน้า เวทีปราศรัยร้อนแรง เมื่อร้อยตำรวจเอก เฉลิมอยู่ บำรุง ขึ้นกล่าวถึงความผิดพลาดของพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงเกือบสิบปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นกลยุทธ์ของพรรคเพื่อไทยที่ชี้ให้ประชาชนในเขตกทม.ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ให้เปลี่ยนในมาเลือกพรรคเพื่อไทย
ด้าน นายวัฒนา เมืองสุข ส.ส เขตบางแค พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ขณะนี้ พรรคเพื่อไทยมีความเป็นห่วงอยู่สองอย่าง คือ ห่วงประชาชนไม่มีกำลังซื้อ และห่วงรัฐบาลไม่มีเงิน หรือ ถังแตก และอยู่ได้ด้วยเงินกู้ เพราะมีตัวเลขติดลบให้กู้ภาคครัวเรือนสูงถึงกว่า สองล้านล้านบาท และมีตัวเลขการกู้สูงขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีแกนนำพรรคคนสำคัญขึ้นเวทีปราศรัย ชูปัญหาเศรษฐกิจ พูดการสืบทอดอำนาจ และการใช้เทคโนโลยีในการแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชน