svasdssvasds

กลาโหม ยันจำเป็นต้อง “เกณฑ์ทหาร” ไว้รับภารกิจด้านความมั่นคง โว...ยอดสมัครใจเพิ่มแต่ไม่เพียงพอ [คลิป]

โฆษกกระทรวงกลาโหม ยันจำเป็นต้อง “เกณฑ์ทหาร” รองรับภารกิจด้านความมั่นคง เผยยอดสมัครใจเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่เพียงพอ รับมี "พลรับใช้" แต่จำนวนน้อย วอนพรรคการเมืองอย่านำไปหาเสียงลอยๆ ทำลายเกียรติภูมิ ขวัญกำลังใจ

วันนี้ 27 ก.พ. เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม อธิบายถึงเหตุผลที่กองทัพจำเป็นต้องมีการเกณฑ์ทหาร ตามที่รัฐธรรมนูญทุกฉบับได้บัญญัติไว้ และมี พ.ร.บ.การรับราชการ พ.ศ.2497 เนื่องจากมิติความมั่นคง ต้องรักษาดุลยภาพ เป็นพลังอำนาจ หน้าที่ทหารทำตามนโยบายรัฐบาล โดยใช้กำลังทหาร ในการป้องกันประเทศ พัฒนาประเทศ และเตรียมกำลังในการดูแลชายแดน ,ช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดภัยพิบัติ รวมทั้ง ภัยคุกคามรูปแบบใหม่ และที่ผ่านมาปรับแก้หลายครั้ง

พล.ท.คงชีพ ยืนยันว่า ประเทศไทยมีทั้งการเกณฑ์ทหารและสมัครใจ โดยแต่ละปี มีคนสมัครใจมากขึ้นจนถึงปัจจุบัน ที่มีถึงร้อยละ 45 และ การทหารเกณท์ในแต่ละปี จะพิจารณาถึงภารกิจ จะรับทหารเกณฑ์ประมาณ 70,000 คน ขณะเดียวกัน ยังมีประเทศแถบยุโรปและมหาอำนาจ 39 ประเทศ ยังคงมีการเกณฑ์ทหาร ส่วน 13 ประเทศยกเลิกไปแล้ว และอีก 29 ประเทศ ไม่มีการเกณฑ์ทหาร แต่สำหรับประเทศสิงคโปร์ ผู้ชายทุกคนต้องเป็นทหาร สำหรับประเทศไทยนั้น มีทั้งเกณฑ์ทหารและสมัครใจ

นอกจากนี้ ยังมีระบบนักศึกษาวิชาทหารที่ครบการเรียนตามหลักสูตร ก็ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร และทหารเกณฑ์ที่เข้าประจำการแล้วจะได้รับการดูแลคุณภาพชีวิตและให้ศึกษาเพิ่มเติม โดยได้วุฒิการศึกษาในการเรียน กศน. การฝึกวิชาชีพ และมีงานทำเมื่อพ้นจากการเกณฑ์ทหารแล้ว ทั้งนี้กองทัพพร้อมรับฟังทุกข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ แต่ต้องทำความเข้าใจให้รอบคอบและต้องศึกษา และไม่เสี่ยงต่อผลกระทบด้านความมั่นคง และต้องสามารถดูแลประโยชน์ของประเทศชาติได้ พร้อมทั้งยืนยันถึงการดูแลทหารเกณฑ์ว่า กระทรวงกลาโหม รวมถึง เหล่าทัพได้มีนโยบายที่เข้มงวดหากพบการกระทำที่รุนแรงต่อทหารเกณฑ์จะมีการลงโทษผู้กระทำผิด รวมถึง ผู้บังคับบัญชาในทุกระดับด้วย

พล.ท.คงชีพ ย้ำว่า หากยกเลิกแล้วจะสามารถรองรับกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ เพราะถ้ายกเลิกแล้ว คนปฏิบัติงาน ไม่มีกำลังในการดูแลผลประโยชน์ของประเทศชาติ ดังนั้น จะต้องศึกษาและทำความเข้าใจกันไม่อยากให้ไปพูดกันในลักษณะที่ลอย ๆ เพราะจะทำให้เกิดกระทบกับจิตใจของผู้ปฏิบัติหน้าที่พลทหารทุกคนเป็นรั้วของชาติเป็นรั้วที่มีชีวิตมีจิตใจ วันนี้ จึงอยากให้คำนึงถึงจิตใจที่ทุ่มเทเสียสละในการทำหน้าที่

โดยกองทัพรับฟังทุกข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ กองทัพเป็นกองทัพของประชาชน และเป็นกลไกของรัฐบาลในการดูแลความมั่นคง เมื่อรัฐบาลมีนโยบายที่จะปรับลดคน หากเห็นว่า มีความจำเป็นกองทัพพร้อมที่จะปรับลดกำลังพลแต่การปรับลดกำลังพล ซึ่งดูแลหลายมิติความมั่นคง จึงต้องศึกษาและทำความเข้าใจร่วมกันอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้อยู่ในเกณฑ์เสี่ยงที่กระทบต่อความมั่นคงหากกองทัพมีการปรับลดกำลังพล ก็จำเป็นต้องมีเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาแทนที่ พร้อมเปรียบเทียบกองทัพกับอุตสาหกรรมหากมีการปรับลดกำลังคนแล้วก็จะต้องมีการเพิ่มเทคโนโลยีเข้ามาทดแทน

ส่วนกรณีพลทหารรับใช้ในบ้านผู้บังคับบัญชาปัจจุบันถือว่า น้อยมาก หรือเกือบจะไม่มีเลย ซึ่งต้องคำนึงถึงเกียรติและศักดิ์ศรีของทหารกองประจำการ ดังนั้นต้องหลีกเลี่ยงการใช้ทหารกองประจำการในที่ไม่เหมาะสม กระทรวงกลาโหมมีการกำหนดให้หน่วยทหารทุกหน่วยดูแลทหารกองประจำการอย่างเหมาะสม เพราะถือเป็นบุคคลที่เสียสละเข้ามาปฏิบัติหน้าที่และมีเกียรติและศักดิ์ศรีเพื่อให้ทำหน้าที่ในการติดตามผลประโยชน์ของประเทศชาติ

ส่วนประเด็นการซ้อมพลทหารถือเป็นเรื่องนโยบาย หากมีรุ่นพี่หรือครูฝึกบางคน กระทำเรื่องนี้จะถูกลงโทษถึงขั้นต้องออกจากราชการอยู่ไม่ได้ หากมีพฤติกรรมเช่นนี้และใช้พฤติกรรมแบบนี้ต้องออกจากราชการ และผู้บังคับบัญชาตามระดับชั้นก็จะต้องรับผิดชอบถึงขั้นย้ายออกจากหน่วย

ส่วนที่มีการเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียเป็นคลิปเก่าเป็นการสร้างข้อมูลที่บิดเบือนและสร้างภาพลักษณ์ไม่ดีกับทหาร ซึ่งนายกรัญมนตรี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการเหล่าทัพ มีนโยบาย ตรงกันคือ ห้ามกระทำโดยเด็ดขาดหากพบเห็นจะดำเนินการทางวินัยให้ถึงที่สุดถึงขั้นปลดออก และผู้บังคับบัญชาตามระดับชั้นจะต้องรับผิดชอบด้วย

สำหรับข้อเรียกร้องพรรคการเมือง ที่มีทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ตนเองอยากอธิบายว่า ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่มาจากพรรคเพื่อไทย หรือ พรรคประชาธิปัตย์ ในเรื่องของการรับกำลังพลเข้ามา หรือใช้งบประมาณ ก็จะต้องไปขอ ครม. อนุมัติในแต่ละปี ไม่อยากให้เอาไปหาเสียงในลักษณะลอย ๆ

related