หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ น้อมรับคำตัดสินคดียุบพรรควันที่ 7 มีนาคมนี้ แต่รู้สึกเสียดายที่พยานไม่มีโอกาสชี้แจงต่อศาล พร้อมขอมวลชนติดตามคดีอยู่ในความสงบ เลี่ยงเงื่อนไขสร้างสถานการณ์รุนแรง
หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ น้อมรับคำตัดสินคดียุบพรรควันที่ 7 มีนาคมนี้ แต่รู้สึกเสียดายที่พยานไม่มีโอกาสชี้แจงต่อศาล พร้อมขอมวลชนติดตามคดีอยู่ในความสงบ เลี่ยงเงื่อนไขสร้างสถานการณ์รุนแรง
ร้อยโทปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรควันนี้ว่า เป็นการประชุมเพื่อเตรียมงานของพรรค ไม่ใช่การประชุมอย่างเป็นทางการ แต่คงมีการหารือเรื่องเตรียมความพร้อมรับฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรควันที่ 7 มีนาคมนี้ รวมถึงหารือถึงท่าทีว่าพรรคจะดำเนินการอย่างไรต่อ
ส่วนโทษของคดียุบพรรคที่อาจถึงขั้นเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตลอดชีวิตนั้น ร้อยโทปรีชาพล ระบุว่า เป็นโทษที่พ่วงมากับคำร้องของ กกต. ซึ่งหากมีการยุบพรรค กกต.ก็ต้องร้องขอให้มีการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรค แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
หัวหน้าพรรตไทยรักษาชาติ ย้ำว่า คณะกรรมการบริหารพรรคทุกคนมีจุดยืนชัดเจนและได้แจ้งกับประชาชนไปแล้วว่า คณะกรรมการบริหารพรรคขอเน้นไปที่คดี ซึ่งเหลืออีกไม่กี่วันข้างหน้า ส่วนการหาเสียงทั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์และคณะกรรมการรณรงค์หาเสียง ยังมีหน้าที่ลงไปสื่อสารกับประชาชนและให้กำลังใจกับผู้สมัคร ทั้ง 175 เขตเลือกตั้ง ซึ่งการแยกกันทำงานก็เพื่อให้หลายฝ่ายสบายใจแม้หลายคนไปถามหาที่เวทีปราศรัย โดยส่วนตัวก็รู้สึกเจ็บปวดที่หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคไม่มีโอกาสได้ขึ้นบนเวที แต่เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ให้มีประเด็นใดๆที่จะมีคนมาฉกฉวยให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองก็ต้องอดทนและรอคอย พร้อมยืนยันในเจตนาอันบริสุทธิ์ และความตั้งใจที่ดี ประชาชนที่สนับสนุนสามารถส่งกำลังใจมาให้กับพรรค และไม่อยากให้ใครนำเรื่องคดียุบพรรคไปขยายหรือฉกฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เพราะปรารถนาที่จะเห็นการเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม
ร้อยโทปรีชาพล บอกด้วยว่า ไม่ว่าคำวินิจฉัยจะออกมาอย่างไรก็พร้อมน้อมรับ เพราะทุกคนอยู่ในประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ยอมว่าพอได้เห็นคำคัดค้านของกกต. แล้ว ก็มีความไม่สบายใจอยู่บ้าง แต่พรรคได้ทำเรื่องชี้แจงเป็นเอกสารไปยังศาลรัฐธรรมนูญค่อนข้างครบถ้วนแล้ว แม้เสียดายอยู่บ้างที่ไม่มีโอกาสได้เข้าชี้แจงในฐานะพยาน
ร้อยโทปรีชาพล ยังขอว่าวันที่ 7 มีนาคมนี้ อยากให้มวลชนติดตามชมผลการวินิจฉัยอยู่ที่บ้าน เพราะไม่มั่นใจว่าในวันนั้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง จึงไม่อยากให้เกิดการสร้างสถานการณ์ นำเรื่องคดียุบพรรคไปทำให้เกิดความวุ่นวาย พร้อมย้ำในฐานะพรรคการเมืองก็พร้อมน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญทุกประการ เพราะได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ยืนยันไม่ได้คิดร้ายกับบ้านเมือง และจะไม่มีการเล่นนอกเกมหรือใต้ดินใดๆทั้งสิ้น และในวันที่ 7 มีนาคมนี้ ผู้ที่ถูกร้องสามารถเข้าฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้ฝ่ายละ 6 คน และบุคคลทั่วไปอีก 60 คน ซึ่งคิดว่าคณะกรรมการบริหารพรรคทุกคนน่าจะไปฟังกันครบ
ส่วนว่าได้พูดคุยกับบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ร้อยโทปรีชาพลระบุว่า ไม่ขอพูดถึงในรายละเอียด เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน แต่เฉพาะคณะกรรมการบริหารพรรคยืนยันว่าจะไปร่วมฟังคำวินิจฉัย