เลือกตั้ง 62 : "จตุพร" ลั่นให้จับตา "สุเทพ" ปราศรัย 18 มี.ค. เชื่อ 7วันสุดท้ายเจอสารพัดรูปแบบ

กำหนดการ พรรคเพื่อชาติสัญจร ภารกิจประชาธิปไตย ส่งประยุทธ์กลับบ้าน ภาคอีสาน ในวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2562 ที่ จ.มุกดาหาร จ.อำนาจเจริญ และ จ.ยโสธร นำโดย นายอารี ไกรนรา ดร.วิโชติ วัณโณ รองหัวหน้าพรรค พร้อมทั้ง คณะผู้บริหารพรรคเพื่อชาติ และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ในฐานะ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ เริ่มต้นด้วย ขึ้นรถแห่พบปะพี่น้องประชาชน ณ ตลาดดอนตาล อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร ช่วยผู้สมัคร ส.ส. จ.มุกดาหาร เขตหนึ่ง นาย อนุสรณ์ โพธิ์ศิริ เบอร์ 13 ต่อด้วยการปราศรัย ณ โรงเรียนบ้านคำสร้อย อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร ช่วยผู้สมัคร ส.ส.เขตสอง นาย วิทยา บุตรดีวงศ์ เบอร์ 13

นายจตุพร กล่าวว่า ความกังวลจากนี้ไปจนกระทั่งถึงวันเลือกตั้ง บทเรียนตอนทำประชามติ ได้เห็นถึงเล่ห์เพทุบายและวิชามารทุกรูปแบบ เพื่อที่จะให้ได้รับชัยชนะ จึงเกิดการตั้งคำถาม ว่าเป็นเพราะ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ยังไม่ลาออกจากหัวหน้าคสช. และนายกรัฐมนตรี หรือไม่ จึงทำให้การไปหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ หรือการปรากฏตัวในนามหัวหน้าคสช.และ นายกรัฐมนตรี การระดมคนต่างๆด้วยกลไกรัฐ จึงไม่ถูกตรวจสอบ ไม่นับการวินิจฉัยช่วยกันในเรื่องการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะว่าผู้ตรวจการแผ่นดินได้วินิจฉัยในเรื่องที่ควรจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องด้วย พลเอกประยุทธ์ อยู่ใน 2 ขั้นตอน ขั้นตอนแรกคือ ช่วงยึดอำนาจใหม่ๆ ระยะเวลา 2 เดือนที่ยังไม่มีรัฐธรรมนูญชั่วคราวนั้น ยังไม่เข้าข่ายเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ แต่ภายหลังมีรัฐธรรมนูญชั่วคราว และต่อมามีรัฐธรรมนูญปี 60 สถานะของพลเอกประยุทธ์ คือการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะฉะนั้นการวินิจฉัยแบบอึมครึม มีการช่วยกันนั้น จะทำให้สถานการณ์ของประเทศมันมีปัญหา อีกทั้ง การวินิจฉัยเรื่องโต๊ะจีนก็เป็นการวินิจฉัยที่ไม่เป็นไปตามข้อกล่าวหา ทั้งหมดเหล่านี้ไม่เป็นผลดีใดใดทั้งสิ้น

ผลลัพธ์สุดท้ายวันนี้คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากต้องการจะเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งปัญหาจะตามหลังมาเต็มไปหมด และขณะนี้ตนอยากถามว่า สิ่งที่พลเอกประยุทธ์กำลังดำเนินการกันอยู่นั้น พลเอกประยุทธ์ควรที่จะทบทวนหรือไม่ ซึ่งตนคิดว่าพลเอกประยุทธ์พร้อมทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะปรับลุคใหม่ของตัวเอง จากชายแก่ขี้โมโห เป็นลุงตู่ผู้ใจดี เป็นคนตลก อารมณ์ดี อารมณ์ขัน ซึ่งก็สวนกับอารมณ์ 5 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นตนก็เห็นว่าคนเราลองทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งฝืนตัวเองแล้ว เป็นสิ่งที่น่าห่วง ถ้าให้ประชาชนใช้สิทธิ์โดยสุจริตจริงๆ ตนก็ไม่ห่วงสถานการณ์การเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า แต่ว่าจากประสบการณ์การผ่านการลงประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญนั้น ทำให้อดกังวลใจไม่ได้ แต่ว่าขอเตือนไว้ก่อนว่า ใครก็ตามที่คิดทุจริตฉ้อฉล หรือวางแผนที่จะปล้นชัยชนะของประชาชนไปนั้น ระวังจะจบไม่สวย

นายจตุพร ยังได้กล่าวเชิญชวน พี่น้องประชาชนติดตามการปราศรัย ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย สำหรับการปราศรัยใหญ่ในวันที่ 18 มีนาคมนี้ และนายจตุพร ในการปราศรัยใหญ่ พรรคเพื่อชาติ ในวันที่ 19 มีนาคมนี้ ตน อยากให้ทุกคน พิจารณาเหตุผลระหว่างเอาและไม่เอาพลเอกประยุทธ์ ตนเชื่อว่า 7 วันต่อจากนี้ เราจะเจอกันอีกหลายเรื่องราว ขอให้กำลังใจกับผู้สมัครพรรคเพื่อชาติทุกคน เพื่อที่เราจะได้ปักธงแห่งชัยชนะที่มุกดาหารแห่งนี้

นายจตุพร ยังกล่าวด้วยว่า เราต้องขอให้พี่น้องเสื้อแดง เลือกเพื่ออนาคตประเทศไทย เพื่อหยุดการสืบทอดอำนาจของพลเอกประยุทธ์ ด้วยระบบบัตรใบเดียว เพราะฉะนั้นจึงต้องร้องขอพี่น้องคนเสื้อแดงในเขตมุกดาหารเขต 1 และเขต 2 นี้ได้ช่วยกันมาเลือกพรรคเพื่อชาติเพราะทุกคะแนนเราจะไปเทลงในสระประชาธิปไตย ถ้าเราคิดแบบเดิม คะแนนจะสูญเปล่า ที่เรียกว่าคะแนนตกน้ำ มันจะไม่สามารถเพิ่มจำนวนส.ส.ให้ชนะฝ่ายการสืบทอดอำนาจได้ ถ้าต้องการให้พลเอกประยุทธ์กลับบ้านก็เลือกผู้สมัครพรรคเพื่อชาติทั้ง 2 เขตคือหมายเลข 13 ทั้งคู่

ช่วงเย็น มีกำหนดการ ปราศรัย ณ ตลาดชุมชน ต.ตาก่อ อ.ชานุมาน และ ตลาดเทศบาลเสนางคนิคม อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ ช่วยผู้สมัคร ส.ส. จ.อำนาจเจริญ นาย ชัยศรี กีฬา เบอร์ 7

จากนั้น ปราศรัย ณ โรงปุ๋ยบ้านดอนมะขามป้อม ต.โคกสำราญ อ.เลิงนกทา และ ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อชาติ อ.กุดชุม จ.ยโสธร ช่วยผู้สมัคร ส.ส. จ.ยโสธร นาย พิทยา พาลุสุข