svasdssvasds

ความเคลื่อนไหวการประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี และ คสช.

วันนี้ มีรัฐมนตรีหลายคนให้ความเห็นเรื่องของการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี ไปเป็นสมาชิกวุฒิสภา โดยนายวิษณุ เครืองาม ยอมรับว่า ถึงแม้จะมีรัฐมนตรีหลายคนลาออกไปเป็น ส.ว. แต่ยังเหลือเกินครึ่งในคณะรัฐมนตรี ที่จะไม่กระทบการทำงาน

การประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่มี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ หัวหน้า คสช. เป็นประธาน โดยวันนี้ เป็นการประชุมเพื่อแก้ไข หรือ ยกเลิกกฎหมายบางฉบับของ คสช. เช่น การแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย หรือ ไอยูยู ซึ่ง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กห. ก็ยอมรับว่า มีความเป็นไปได้ที่อาจจะยกเลิกบางข้อ และออกเป็นกฎหมายใหม่ แต่ฉบับไหนที่จำเป็นต้องอยู่ ก็ต้องคงไว้ก่อน ส่วนที่ไม่จำเป็นก็ต้องยกเลิก

ส่วนเรื่องที่หลายฝ่ายจับตาท่าทีทางการเมือง คือ การลาออกของรัฐมนตรีชุดปัจจุบัน ที่เตรียมยื่นลาออกจากตำแหน่งเพื่อเข้าไปเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับ พลเอกประยุทธ์ และ พลเอกประวิตร โดย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย เปิดเผยว่า รัฐมนตรีที่ลาออก ไปเป็น ส.ว. มีจำนวนผู้ที่ลาออกมากพอสมควร แต่จำนวน ครม. ที่เหลืออยู่ ก็เกินครึ่ง ก็ยังสามารถทำงานต่อไปได้ และการลาออกของรัฐมนตรี ที่จะไปเป็น ส.ว. จะต้องลาออกก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ไม่เกินวันที่ 9 พฤษภาคมคม นี้

ความเคลื่อนไหวการประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี และ คสช.

ความเคลื่อนไหวการประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี และ คสช.

ขณะที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าในการสรรหา ส.ว. ว่า ทำไปตามกฎหมาย ขณะที่ส่วนรายชื่อได้ครบแล้ว ส่วนจะเป็นบุคคลในรัฐคณะรัฐมนตรี หรือไม่ พลเอกประวิตร ระบุว่า ไม่ทราบ

ความเคลื่อนไหวการประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี และ คสช.

ด้าน พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิเสธถึงกระแสข่าวการลาออกของนายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่ก็บอกว่า การลาออกถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ผู้ที่จะเป็น ส.ว. จะต้องผ่านการพิจารณาคุณสมบัติจาก คสช. ซึ่งหากคุณสมบัติครบถ้วนแล้ว คสช. จะเป็นผู้แจ้งชื่อ ก่อนจะยื่นใบลาออกภายใน 1 ถึง 2 วันนี้

ความเคลื่อนไหวการประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี และ คสช.

ขณะที่ วาระการประชุมที่สำคัญ วันนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร จะมีการเสนอ 3 มาตรการในการพยุงราคาปาล์มไม่ให้ตกต่อเนื่อง ได้แก่ 1.ให้กระทรวงพลังงานโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ จำนวน 2 แสนตัน พร้อมสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ออกตรวจสต๊อกน้ำมันปาล์มจากโรงสกัด 144 แห่งเพื่อเช็คปริมาณและควบคุมไม่ให้แต่ละโรงสกัดมีสต๊อกต่ำกว่าร้อยละ 50 จากยอดขายปกติ / ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำมาตรการลดต้นทุนให้เกษตรกร และ ให้มีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการกำหนดโครงสร้างราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม โดยมี อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธานเพื่อจัดทำโครงสร้างราคาน้ำมันปาล์มที่สะท้อนต้นทุนและราคาที่แท้จริง

related