"อนาคตใหม่"เตรียมร้องคะแนนหาย 6 แสน - หากสูตรคำนวณ สส.ออก 26 พรรค

แนวโน้มที่กกต.จะใช้สูตรคำนวณสส.บัญชีรายชื่อที่จะทำให้ได้มากถึง 26-28 พรรค มีโอกาสสูงมาก ทางพรรคอนาคตใหม่ออกมาแสดงท่าทีในเรื่องนี้ โดนนายปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคยืนยันว่ามีเพียงรูปแบบเดียว คือ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งมาตรา 128 ที่พรรคการเมืองจะได้สส.บัญชีรายชื่อจะต้องได้คะแนนเกินว่า 7หมื่น1พัน ซึ่งจะมีทั้งหมด 16 พรรค

หาก กกต. ยืนยัน ใช้สูตร 28 พรรค จะทำให้ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ หายไป 7 ที่นั่ง คะแนนเสียงหายไปเกือบ 6 แสนคะแนน ทำให้มี ส.ส.หายไปรวมๆ กันเกือบ 10 คน

ส่วนการวินิฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ถึงรูปแบบการคำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้น เห็นว่า ไม่ว่าศาลจะตีความแบบใด ก็ไม่ส่งผลต่อการเลือกตั้ง และ ก็ไม่ใช่เหตุผล ที่ กกต. จะอ้างเพื่อใช้สูตรการคำนวน ส.ส.แบบ 28 พรรคได้เช่นกัน เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ยังเตรียมที่จะใช้ช่องทางกฎหมาย ดำเนินการกับ กกต.หากใช้อำนาจโดยมิชอบ จนส่งผลให้พรรคเกิดความเสียหาย

ด้านพรรคเพื่อไทยวานนี้ นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรค ยื่นหนังสือถึง กกต.ทั้ง 7 คน โดยยื่นเป็นรายบุคคล พร้อมพกใบเหลืองจดรายชื่อ กกต. เพื่อขอให้พิจารณาการประกาศผลการรับรอง ส.ส.บัญชีรายชื่อในวันที่ 8 พฤษภาคม โดยขอให้ยึดตามกฏหมาย ที่ผ่านมายื่นมาหลายครั้งแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้าครั้งนี้เลยยื่นเป็นรายบุคคล เพื่อไทยเห็นว่าหากคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อตามรัฐธรรมนูญจะมีเพียง 16 พรรคเท่านั้น

ส่วนคนสุดท้ายที่ออกมาแสดงความเห็นเรื่องนี้ก่อนที่จะมีการประกาศสส.บัญชีรายชื่อ

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต.และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หากกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า มาตรา 128 ของ พรป.ส.ส.ไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 91 ไม่ได้แปลว่า กกต.จะคำนวณสูตรได้ตามใจชอบ โดยมีข้อความว่า

“ความเห็นส่วนตัวที่ไม่ใช่การชี้นำศาล คือ ม.128 เป็นส่วนขยายในเชิงขั้นตอนการคำนวณที่เพิ่มจาก 5 ขั้นในรัฐธรรมนูญมาเป็น 8 ขั้นใน กม.ลูก จึงไม่มีสิ่งใดที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ แต่ก็ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลฯซึ่งถือเป็นที่สุด”

“แต่การบอกว่าไม่ขัด ก็ยังเป็นความรับผิดชอบของ กกต.ที่ต้องดำเนินการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อให้ “ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ” ด้วย”

“แต่หากหวยออกอีกทางว่าขัด แปลว่า กม.ลูกร่างมาไม่ดี กกต.ไม่สามารถนำวิธีการที่เขียนใน กม.ลูกมาคำนวณได้ ก็ต้องยึดรัฐธรรมนูญที่มีแค่ 5 ขั้นตอนเป็นหลักในการคำนวณไปพลางก่อน จะรอแก้ กม.แล้วค่อยมาคำนวณอาจสายเกินไป เพราะจะเลยกรอบ 150 วัน และ สนช.น่าจะไม่เหลือพอที่ประชุมแก้กฎหมายแล้ว เห็นลาออกไปเป็น ส.ว.กันหมดตั้งแต่ ประธาน รองประธาน”

“ตอนนี้ ได้แต่นึกถึงคำพูดประจำของอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ประสิทธิ์ กาญจนวัฒน์ “ยุ่ง ตาย ห่_”