svasdssvasds

"ชูวิทย์" ชี้สูตรพิศดาร ด้านได้ อายอด(แดก)

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พูดถึงสูตรคำนวณ สส. บัญชีรายชื่อ และตั้งฉายาให้รัฐบาลใหม่ด้วย

โดยกล่าวว่าสูตรคำนวณอัตราส่วนปาร์ตี้ลิสต์มากมายหลากหลาย อยู่ที่ใครคิดว่าสูตรไหนได้ประโยชน์กับตัวเอง ก็สนับสนุนฝ่ายนั้น เข้าทำนอง “ด้านได้ อายอด(แดก)” ส่วนพรรคเล็กได้ “ส.ส. เอื้ออาทร” พลังประชารัฐยิ้มเยาะ จัดตั้งรัฐบาลได้คะแนนเกินครึ่งไปฉิวเฉียด พรรคประชาธิปัตย์ทำตัวเป็นตาอยู่ นิ่งๆ เฉยๆ นั่งบนภูดูเขาทะเลาะกัน แล้วกระดี๊กระด๊า ทิ้งคำพูดเท่ห์ๆ ตอนหาเสียงว่า “ไม่สืบทอดอำนาจ” และขอเล่าให้ฟังว่า จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

โดยอธิบายว่าการที่พรรคเล็กได้โปรที่นั่งไปคนละ 1 ที่นั่ง ย่อมถูกเสนอให้ ”รวมมัดกันเป็นแพ็ค” เหมือนร้านขายส่ง คือ ชิ้นเดียวไม่มีค่า แต่หากรวมกันเป็นเข่ง ตีราคาเหมา จะมีราคามากกว่า ตั้งรัฐบาลได้ การทำงานในอนาคตของรัฐบาลจะพิกลพิการ

"ชูวิทย์" ชี้สูตรพิศดาร ด้านได้ อายอด(แดก)

1.คะแนนเกินกึ่งหนึ่งไปแค่ไม่ถึงนิ้วมือคน เหนื่อยกลายเป็น “รัฐบาลขี้กลัว” ไม่กล้าทำอะไร กฎหมายออกไม่ได้ แค่ประคองตัวให้รอดไปวันๆ

2.รัฐบาลไม่เป็นหนึ่งเดียว เรื่องง่ายกลายเป็นเรื่องยาก ส่วนเรื่องยากลืมไปได้เลย แม้ฝั่งเดียวกันแต่มาจากร้อยพ่อพันแม่ หากมีอะไรไม่ถูกใจ อ้างว่า “ได้เป็นรัฐบาลเพราะกู” ตอนนี้เงื่อนไขเปลี่ยนไม่ใช่รัฐบาล คสช. ที่จะสั่งซ้ายหันขวาหันได้

3.ความไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ต้องหาคนคุมเกมในสภาตามเช็คชื่อตลอด ร่างกฎหมายต่างๆ จะไม่ง่ายเหมือนสมัย สนช. ที่รวดเดียวผ่าน 3 วาระ เที่ยวนี้เผลอไม่ได้ เพราะพังได้ตลอดเวลา หรือไม่ก็ใช้เวลานาน แม้ได้ สุชาติ ตันเจริญ มาเป็นประธานสภาคุมเกม ส่งชื่อนายกฯ ไม่เปลี่ยนโผ แต่เรื่องในสภาจะยุ่งตายห่า

4.พวกพรรคเล็ก เมื่อ “ส้มหล่น” ได้เป็น ส.ส. ก็เป็นหน้าเป็นตา มีสวัสดิการเยี่ยม เงินเดือนเป็นแสน บินฟรีทั่วไทยสภาเขาจ่ายให้ ใครๆก็เรียกท่าน มีผู้ช่วยประจำตัว แต่จะทำงานคุ้มไหม เขาอุตส่าห์เล่นแร่แปรธาตุ ใช้สูตรพิสดาร แถมโปร เจียดที่นั่งมาให้ ไม่เชื่อคอยดู พอเข้าสภาได้นั่งเงียบเป็นเป่าสาก บทบาทไม่มี ขยับตัวเฉพาะตอนกดคะแนน มือต้องไว ไม่ว่าอยู่ไหนต้องรีบวิ่งร้อยเมตรกลับมากดให้ทันตู้เอทีเอ็ม ไม่งั้นเงินไม่ออก

5.ท้ายสุด เมื่อรัฐบาลได้เสียงเกินครึ่งมาแค่นี้ ต่อไปไม่พ้น ต้องใช้บริการ “งูเห่า“ ยิ่งอยู่สภาไปเรื่อยๆ จะได้เห็น ส.ส. แหกโผฝ่ายค้าน ไปซบรัฐบาล ไม่เชื่อรอดูวันลงคะแนนตั้งนายกฯ ซื้อใจกันได้เพิ่ม เหมือนบัตรเติมเงิน

ถามจริงๆ ว่ารัฐบาลใหม่จะทำงานไปได้สักกี่น้ำ? จะฝากอนาคตไปได้สักเท่าไหร่? เพราะไม่ได้มาจากใจ แต่มาจากการซื้อ มันไม่ได้มา “ร่วมอุดมการณ์” แต่ “ร่วมอุดมกิน” น่าสงสารประเทศไทย ต้องย้อนกลับไปสู่อดีต (อีกครั้ง) ไม่ได้ปฏิรูปอะไรเลยสักกระผีก อีกหน่อยเขาก็ “รู้ไส้รู้พุง“ กันหมด กิเลสการเมือง อำนาจ ความกระสันอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทำให้คนหน้าหนา ตะแบงเอาหลักกู ไม่ได้ใช้หลักการ ”รัฐบาลร้อยพ่อพันแม่” จะเป็นฉายาของรัฐบาลใหม่นี้

ถึงเป็นรัฐบาลได้ ก็บริหารงานไม่ได้ เพราะเป็นเพียงรัฐบาลที่ตีตั๋วอยู่ต่อ คงอำนาจไว้แค่ชั่วคราวเท่านั้น ประชาชนท้อแท้ ไม่เชื่อมั่น ส่งผลถึงเศรษฐกิจ ปากท้อง เพราะการบริหารงานไม่ได้ง่ายเหมือนการบริหารงานในรัฐบาลก่อน ไม่ที่มีทหารสนับสนุน แถมมีฝ่ายค้านมาคอยขวางหูขวางตา แต่ละคนคงคิดในใจว่า “ขอไปตายเอาดาบหน้า” ก็แล้วกัน รวมกันเราอยู่ วันนี้ได้เกินครึ่งเท่านี้ จัดรัฐบาลให้ได้ก่อน ค่อยไปหาเพิ่มเอา มีปัญหาค่อยไปแก้ผ้าเอาหน้ารอดทีหลัง ด้วยเสียงที่มีอยู่ทั้งสองฝั่ง ห่างกันแค่ไม่เกินชูสองมือสิบนิ้ว รัฐบาลอยู่ได้สัก 6 เดือน หรือเอาแค่ผ่านงบประมาณเดือนตุลานี้ ก็คุ้มแล้ว ส่วนประชาชนไทยอย่างเราๆก็ทำใจเถอะครับ ประเทศไทยคิดได้สั้นแค่นี้จริงๆ

related