“บิ๊กป้อม” เผยทูลเกล้าฯ ส.ว. 250 แล้ว ชี้มีคสช.-รัฐบาลแค่บางส่วน

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวกรณี แกนนำภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน ออกแถลงการณ์ผ่านทางช่องยูทูป โดยอ้างว่า ผู้ลี้ภัยทางการเมือง 3 คนที่ถูกควบคุมตัวที่เวียดนามนั้น ประกอบด้วย นายชูชีพ ชีวะสุทธิ์ นักจัดรายการวิทยุใต้ดินในนาม “ลุงสนามหลวง” พร้อมด้วยนายสยาม ธีรวุฒิ และนายกฤษณะ ทัพไทย ถูกส่งตัวกลับไทยแล้ว หลังถูกจับกุมที่ประเทศเวียดนามมากว่า 1 เดือนว่า ตนไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และไม่รู้ว่าบุคคล ทั้ง 3 คนอยู่ที่ไหน ซึ่งตนคาดว่าข่าวดังกล่าวน่า จะมาจากกระทรวงการต่างประเทศ หรืออาจจะมาจากตำรวจสันติบาล

พลเอกประวิตร ยืนยันว่า ขณะนี้ได้ทุนเกล้ารายชื่อ ส.ว.250 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนที่มีการมองว่า มีคนในคณะรักษาความสงบแห่งชาติและรัฐบาล เข้าไปเป็น ส.ว.นั้น ก็เป็นเพียงส่วนเดียว ซึ่งบุคคลดังกล่าว เพียงลาออกและเข้าไปทำงานเท่านั้น และยังถือว่าเป็นการช่วยรัฐบาล ในการเข้าทำงานในอนาคต และถือว่า เป็นเพียงส่วนเดียว ที่มีกว่า 10 คนเท่านั้น ขออย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต และยังไม่ทราบว่ามี สมาชิกนิติบัญญัติแห่งชาติลาออกอีกไปหลายหลายคน

ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ ว่า พลเอกปรีชา จันทร์โอชา น้องชายของนายกรัฐมนตรี เข้าไปเป็น ส.ว.ด้วยนั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า พลเอกปรีชา ก็เคยเป็น สนช.มาแล้ว จะเป็น ส.ว.ต่อ ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร และตนไม่ทราบด้วยว่า พลเอกปรีชา ได้ขาดการประชุม สนช.ตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ด้วยหรือไม่ เพราะต้องไปถามพลเอกปรีชาเอง

ส่วนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า อย่ามาถามตน เพราะไม่ทราบถึงเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาล ขณะนี้ก็ยังไม่ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่แต่อย่างใด แล้วจะมาพูดว่าจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างไร ส่วนตัวเองจะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมต่อหรือไม่นั้น เรื่องนี้ยังไม่ได้นายกรัฐมนตรีเลย ซึ่งตนก็ไม่เคยสอบถามพลเอกประยุทธ์ ในเรื่องนี้ ขอย้ำว่าไม่เกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง หากจะได้รับตำแหน่งในรัฐบาลใหม่ต่อ ซึ่งทั้งหมดอยู่ที่รัฐบาลใหม่เป็นผู้พิจารณา

ส่วนประเด็นที่ว่าจะได้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี อีกสมัยหนึ่งหรือไม่นั้น พลเอกประวิตร ตอบว่า ไม่ทราบ จะมาถามอะไรในเรื่องนี้ เพราะยังไม่ได้นายกรัฐมนตรีกันเลย รวมถึงเรื่อง พลเอก อนะงษ์ เผ่าจินดา จะได้รับตำแหน่งในรัฐบาลใหม่หรือไม่ ก็ยังไม่ทราบเช่นกัน ไม่มีใครรู้อนาคตของตัวเองกันทั้งนั้น วันนี้เพียงแค่ทำงานที่ได้รับมอบหมายในปัจจุบันเท่านั้น

นอกจากนี้พลเอกประวิตร ยังกล่าวถึงกรณี อธิบดีผู้พิพากษาศาลคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 8 ไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจใบขับขี่ว่า เรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการไปแล้ว โดยให้ย้ายกลับไปดำรงตำแหน่งเดิม เพื่อความเป็นธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนจะมีการดำเนินการตรวจสอบกับ พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรทุ่งใหญ่ หรือไม่นั้น เบื้องต้นจะดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอน ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแลในเรื่องนี้อยู่