ฝ่าย ปชต. รุมสวด สภาผัว-เมีย วันนอร์ ชี้ผิด ม.114

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) กล่าวถึงรายชื่อ ส.ว. ทั้ง 250 คน ที่ส่วนใหญ่ใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจว่า จากรายชื่อทั้งหมดส่อให้เห็นว่าตั้งใจมาโหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี แต่อย่างไรก็ตาม มาตรา 114 แห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 บัญญัติว่า ส.ส. และ ส.ว. ย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมาย หรือความครอบงำใดๆ และต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชนโดยรวม โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ดังนั้นในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 แห่งรัฐธรรมนูญ จึงทำให้ ส.ว. ทั้ง 250 คน ไม่มีสิทธิ์ และอำนาจโหวต พล.อ.ประยุทธ์ หรือหัวหน้า คสช. เป็นนายกฯ หาก ส.ว. ยังโหวต พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องถูกประชาชน ร้องสอบเอาผิดอย่างแน่นอน

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวว่า เห็นรายชื่อ ส.ว. ทั้งหมดถือเป็นการอุกอาจ และท้าทายประชาชนมาก ไม่มีความละอาย นำภาษีประชาชนมาใช้สืบทอดอำนาจ ตนจึงเรียกร้องให้คนไทยที่จ่ายภาษีเป็นเงินเดือนให้ ส.ว. พวกนี้ร่วมกันส่งเสียงออกไปดังๆ ให้ ส.ว. 250 คน ให้การใช้อำนาจหน้าที่ครั้งแรกในสภาไปในทางที่หยุดการสืบทอดอำนาจของ คสช. พร้อมเรียกร้องไปยังกลุ่ม ส.ว. จงใช้อำนาจหน้าที่เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทย ไม่ใช่ผู้แทน คสช. จะใช้อำนาจโดยไม่ขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามมาตรา 114

รศ.ดร.โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ อาจารย์ภาควิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ่อของ “จอห์น วิญญู” ได้ทวีตข้อความที่ทวีตเตอร์ “@kovitw1” ระบุว่า เห็นรายชื่อ ส.ว. ทั้งหมด เหมือนไม่เห็นหัวประชาชน เหตุใดต้องใช้งบประมาณในการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) มากถึง 1,300 ล้านบาททั้งๆ ที่เลือกกันผ่านไลน์ก็ได้

ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายปิยบุตร ระบุหาก ส.ว. 250 คน ซึ่งแต่งตั้งโดยหัวหน้า คสช. โหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี ถือว่าขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 114 ที่ว่าด้วยการขัดกันแห่งผลประโยชน์ว่า ถูกบังคับด้วยมาตรา 272 ในรัฐธรรมนูญที่ให้ ส.ว. ประชุมร่วมกับ ส.ส. เพื่อเลือกนายกฯ ดังนั้นต้องเลือกว่าจะเอามาตรา 114 หรือมาตรา 272 ซึ่งมาตรา 272 นั้นอยู่ในบทเฉพาะกาลที่ออกแบบมาเฉพาะการเลือกนายกฯ ในครั้งนี้ และเป็นมาตราที่ได้มาจากการลงประชามติที่มีคำถามพ่วง เพราะขณะนั้นก็ยังไม่ทราบว่าหัวหน้า คสช. จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่

ด้าน คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โพสต์เฟสบุ๊กหลังทราบข่าวได้เป็น ส.ว. ข้อความฉบับเต็มระบุว่า "ช่วงที่ได้ทราบว่า ได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็น ส.ว. พอดีต้องเดินทางลงหาดใหญ่ บรรยายช่วงเช้าพรุ่งนี้ ที่ตั้งใจมาก่อนก็เพราะอยากไปติดตามโครงการตามรอยที่เกิดหลวงปู่ทวดที่วัดต้นเลียบ อ. สะทิงพระ จ. สงขลา ที่ได้ร่วมบุญกับสายบุญทั้งหลายซื้อที่เพื่อสร้างเป็นวัดสำเร็จเนื่องจากเป็นจุดกำเนิดพระสงฆ์องค์สำคัญ

หมอได้อธิษฐานไว้ว่า ขอพลังแห่งความสำเร็จช่วยนำพาให้เกิดความมั่นคงในสามสถาบันของไทย มาบัดนี้มีความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีหลายอย่างรวมถึงการได้เป็น ส.ว. ที่ตั้งใจจะปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมให้ดีขึ้น รวมทั้งการทำให้คนไทยได้รัก ภูมิใจในแผ่นดินเกิดกับโครงการเช่นที่วัดต้นเลียบ ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมา โทรมา เรามาช่วยกันนะคะ ทุกสิ่งเป็นไปตามการกระทำ ทำดีคือได้ดี ขอบคุณอาจารย์เดี่ยวที่พาไปกราบที่วัดต้นเลียบบ่ายนี้

อย่างไรก็ตาม วานนี้ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็น ส.ว. เดินทางเข้ารายงานตัวเป็นคนแรก ที่อาคารสุขประพฤติ ถนนประชาชื่น สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ยืนยัน จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย

ด้านนายพีระศักดิ์ พอจิต อดีตรองประธาน สนช. คนที่ 2 ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็น ส.ว. ได้เดินทางเข้ามารายงานตัวเป็นคนที่ 2 โดยระบุว่า การที่จะเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อหรือไม่นั้น ต้องดูที่สภาผู้แทนราษฎรก่อน โดยมารยาท ธรรมเนียมปฏิบัติ ต้องให้ฝ่าย ส.ส. ดำเนินการไปก่อน และขณะนี้ก็ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องพูดเรื่องนี้