svasdssvasds

ไฟเขียว! พปชร.ลุยตั้งรบ.เต็มรูปแบบการเมือง จ่อเกลี่ยกระทรวงกันใหม่

ไฟเขียว! พปชร.ลุยตั้งรบ.เต็มรูปแบบการเมือง จ่อเกลี่ยกระทรวงกันใหม่

“พปชร.” ได้สัญญาณลุยตั้งรัฐบาลเต็มรูปแบบการเมือง จ่อเกลี่ยกระทรวงกันใหม่ ชี้ หากกระทรวงด้านเศรษฐกิจไม่อยู่กับพรรคแกนนำ จะกระทบคนชนบทและการเลือกตั้งครั้งต่อไป จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

ความเคลื่อนไหวการจัดตั้งรัฐบาล ที่นำโดยพรรคพลังประชารัฐ มีรายงานว่า ล่าสุดมีการส่งสัญญาณจากผู้ใหญ่ในรัฐบาล ให้ฝ่ายการเมืองเป็นผู้ดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อให้เป็นรูปแบบของการเมืองมากขึ้น โดยมีนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค เป็นผู้ดำเนินการ สอดคล้องกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ระบุเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมาว่าการตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องของพรรคการเมือง เนื่องจากพรรคร่วมโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย อาจไม่สบายใจที่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่าจะเป็นผู้พิจารณารายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ด้วยตัวเอง

อย่างไรก็ตาม จากการเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย ก่อนหน้านี้ มีหลายประเด็นที่ต้องพิจารณากันต่อไป ซึ่งอาจมีการเกลี่ยกระทรวงกันใหม่ จากเดิมที่วางไว้แล้ว โดยพิจารณาที่ด้านนโยบายของแต่ละพรรคการเมือง และตำแหน่งในกระทรวงต่างๆ จะต้องจัดลำดับความสำคัญ และคำนึงถึงเสถียรภาพของรัฐบาลด้วย ทั้งนี้ พปชร.ตั้งเป้าจะตกลงกันให้ได้ก่อนวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ในขั้นสุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นคนเคาะรายชื่อบุคคลต่างๆ ว่าเหมาะกับตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงที่ได้รับหรือไม่

รายงานข่าวแจ้งว่า แกนนำ พปชร.มองว่า หากภาพรวมกระทรวงเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม ฯลฯ ไม่ได้เป็นของพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะกระทบกับคนชนบทซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ ซึ่งที่สุดจะส่งผลต่อการเลือกตั้งครั้งต่อไป ดังนั้น จึงต้องมาร่วมกันพิจารณาอย่างรอบคอบ

ในส่วนของพรรค พปชร.ไม่ได้กังวลการรวมเสียงโหวตนายกรัฐมนตรี เพราะแม้ยังตกลงกับพรรคร่วมไม่ได้ แต่กลไกตามรัฐธรรมนูญยังเปิดช่องให้ ส.ว.สามารถร่วมโหวตนายกฯ ได้ ซึ่งเมื่อรวมเสียงพรรค พปชร.กับพรรคที่ออกตัวแล้วว่าจะร่วมรัฐบาลกับพรรค พปชร. จะได้ 126 เสียง รวมกับ ส.ว.250 คน เป็น 376 เสียง เกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภา โดยพรรค พปชร.จะใช้แนวทางเลือกนี้ก็ต่อเมื่อ ไม่สามารถปิดดีลกับพรรคประชาธิปัตย์และภูมิใจไทยได้ โดยจะโหวตนายกฯ ไปก่อนแล้วค่อยคุยกับ 2 พรรคต่อในภายหลัง

 

related